นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยสมาชิกพรรค ประกาศเตรียมดำเนินการตามกฎหมายกับรัฐบาลที่ครอบงำการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ หลังที่ประชุมร่วมรัฐสภามีมติเห็นชอบให้กำหนดวิธีการคำนวณหา ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หารด้วย 500 สวนทางกับร่างกฎหมายที่รัฐบาลเป็นผู้เสนอ เพราะเชื่อว่ามีข้อแลกเปลี่ยนกับการโหวตในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังจะเกิดขึ้น และการสืบทอดอำนาจ
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้เป็นความอัปยศที่สุดของรัฐสภาไทย...รัฐบาลสั่งยกเลิกกฎหมายของตัวเอง ทำเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด เมื่อถูกพรรคร่วมขู่ถอนตัว เป็นการจงใจฝ่าฝืนกำหมาย และขัดต่อมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง" นพ.ชลน่าน กล่าว
พรรคเพื่อไทย ระบุว่าจะดำเนินการเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยประเด็นร่างมาตรา 128 ขัดรัฐธรรมนูญ และจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อหยุดยั้งความเลวร้ายเหล่านี้ เพราะเป็นการการใช้เสียงข้างมากกระทำการตามอำเภอใจ ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญเพื่อสืบทอดอำนาจ
พร้อมกันนั้น จะร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบการใช้อำนาจครอบงำพรรคการเมือง และร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่ามีการจงใจฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์เรื่องมติรัฐสภาขัดต่อรัฐธรรมนูญ ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2564 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 91 เปลี่ยนแปลงระบบการเลือกตั้ง ส.ส.จากระบบจัดสรรปันส่วนผสม มาเป็นระบบคู่ขนาน ซึ่งเป็นระบบเดียวกับที่ใช้ตามรัฐธรรมนูญปี 40 และรัฐธรรมนูญปี 50 แก้ไขเพิ่มเติมในปี 54 หลังประชุมร่วมรัฐสภามีมติเห็นชอบให้กำหนดวิธีการคำนวณหา ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อด้วยการหาร 500
พรรคเพื่อไทย ระบุว่า การเลือกตั้งตามระบบใหม่ ได้แยกการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และแบบบัญชีรายชื่อออกจากกัน โดยใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แบบละ 1 ใบ ซึ่งการคำนวณจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อของแต่ละพรรค เป็นสัดส่วนที่สัมพันธ์กันโดยตรงกับคะแนนรวมในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อที่พรรคนั้นได้รับ ไม่นำจำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งของพรรคนั้นมาพิจารณาว่าผลสุดท้ายพรรคการเมืองนั้นจะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเท่าใด
ขณะที่ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ทั้ง 4 ร่าง รวมร่างของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งเป็นร่างหลักในการพิจารณาแก้มาตรา 128 ต่างก็เสนอวิธีการคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญเหมือนกันคือ ให้นำผลคะแนนรวมที่ทุกพรรคการเมืองได้รับจากการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อหารด้วย 100 แล้วไปหารคะแนนที่แต่ละพรรคได้รับ ผลก็คือจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ โดยไม่คำนึงว่าพรรคนั้นจะได้ ส.ส.แบ่งเขตเท่าใด และคณะกรรมาธิการของรัฐสภาก็เห็นชอบกับร่างแก้ไขดังกล่าว
แต่สองวันนี้มีข่าวมาตลอดว่ามีผู้มีอำนาจในรัฐบาลต้องการให้เปลี่ยนแปลงระบบการเลือกตั้งกลับไปเป็นระบบจัดสรรปันส่วนผสมเพื่อสืบทอดอำนาจของตนต่อไป โดยไม่คำนึงถึงกฎหมายและข้อบังคับของรัฐสภา แต่กลับคิดถึงความอยู่รอดและผลประโยชน์ทางการเมืองของตน สมาชิกรัฐสภาจำนวนหนึ่งในซีกรัฐบาลจึงใช้เสียงข้างมากจงใจกระทำการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 โดยลงมติแก้ไขมาตรา 128 ตามกรรมาธิการเสียงข้างน้อยเพื่อนำระบบจัดสรรปันส่วนผสมที่ถูกยกเลิกไปกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งขัดมาตรา 91 แห่งรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมรัฐสภาอย่างชัดเจน" แถลงการณ์ฯ ระบุ