นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ?ที่ผ่านสูตรคำนวณ ส.ส.หาร 500 ผ่านวาระ 3 ไปแล้ว ตามกระบวนการจะต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกา และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อพิจารณาก่อน หาก 3 กกต.เห็นแย้ง หรือศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งฉบับนี้ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ อาจนำไปสู่เดดล็อกทางการเมืองได้ และเมื่อเป็นเช่นนั้นจะทำให้ไม่มีกฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้งรองรับหากมีการยุบสภา หรือรัฐบาลหมดวาระ และจะออกกฎหมายลูกฉบับใหม่ไม่ทัน สุ่มเสี่ยงจะทำให้รัฐบาลชุดปัจจุบันมีช่องว่างออกแบบกฎหรือกติกาตามใจชอบได้
"แต่สิ่งเกิดขึ้นเมื่อคืนเป็นเพียงการบิด เพื่อทำความต้องการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่ต้องการสืบทอดอำนาจต่อ เลยมีปัญหา สิ่งนี้เป็นสิ่งที่พรรคก้าวไกลเอง ไม่สามารถเข้าไปร่วมกับกระบวนการสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ ได้อย่างแน่นอน แต่คิดว่าคงจะต้องหาทางแก้ไขสถานการณ์ที่อาจจะเกิดหลังจากนี้" นายชัยธวัช กล่าว
นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย และอดีต รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ในการอภิปรายมีการเสนอหลักการและเหตุผลที่ชัดเจนถึงข้อดี-ข้อเสียของการเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ รวมทั้งคณะกรรมาธิการเองก็ชัดเจนว่าการหารด้วย 500 อาจจะขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ แต่พรรคร่วมรัฐบาลและ ส.ว.ไม่ให้ความสำคัญ พยายามที่จะเอาใจผู้มีอำนาจมากกว่าที่จะสะท้อนความต้องการของประชาชน จึงไม่ประหลาดใจกับผลที่ออกมา
นายวิสาร กล่าวว่า กระบวนการตามทฤษฎีสมคบคิดในการที่จะกลับมาครองอำนาจอีกครั้งของ พล.อ.ประยุทธ์ จึงส่งสัญญาณมายังฝ่ายการเมืองในอาณัติ ให้ลงมติตามที่ผู้มีอำนาจต้องการ นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเอาใจพรรคเล็กให้โหวตให้ตัวเองฝ่าด่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย ดังนั้นจึงต้องทำทุกอย่าง แม้จะก้าวก่ายอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติก็ไม่สนใจ
"การกระทำของ พล.อ.ประยุทธ์ จงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ฝ่าฝืนจริยธรรม ซึ่งพรรคฝ่ายค้านจะนำประเด็นดังกล่าวมา อภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนที่บางพรรคกระทำการดูหมิ่นประชาชน ด้วยการกลืนน้ำลายตัวเองกลับมติพรรค และเจตนาหักหลังประชาชน ต้องรับผลจากการกระทำที่จะตามมา บางพรรคการเมืองจะถูกชาวบ้านลงโทษอย่างแน่นอน" นายวิสาร กล่าว