พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการเตรียมความพร้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ได้หารือกับพรรคร่วมรัฐบาลรวมถึงในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยขอให้เตรียมข้อมูลต่างๆ ให้เกิดความชัดเจน และให้สามารถชี้แจงได้ ซึ่งเชื่อมั่นว่า ทุกคนจะสามารถชี้แจงและตอบคำถามได้ ในทุกประเด็นที่มีความสำคัญและเป็นข้อเท็จจริง
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า การชี้แจงในการอภิปรายครั้งนี้จะพูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์และเป็นข้อเท็จจริง ไม่บิดเบือน ไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อการบริหารราชการแผ่นดิน และต้องไม่เป็นปัญหาให้กับประเทศชาติ โดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งการอภิปรายในครั้งนี้ต้องระมัดระวังอย่างที่สุด เพราะบ้านเมืองอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติจากสถานการณ์โลกในปัจจุบัน ดังนั้นความไว้วางใจจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ทั้งการลงทุน การค้า และเศรษฐกิจมีความเกี่ยวเนื่องกันทั้งหมด จึงขอให้ดูสถานการณ์ในต่างประเทศ ทั้งในอาเซียนและ ภูมิภาคอื่นๆ ที่ทุกประเทศก็มีปัญหาเหมือนกันหมด ซึ่งไทยในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลกก็ต้องนำมาพิจารณาด้วย ว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ อะไรทำได้และทำไม่ได้ เพราะทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ซึ่งหลายอย่างอาจเกิดการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดจึงไม่มีการดำเนินการ เพราะต้องดูหลายปัจจัยประกอบ ว่าเมื่อทำแล้วจะเกิดผลกระทบ ต่อสิ่งอื่นๆ หรือไม่ ซึ่งรัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาทุกอย่าง
"ผมไม่อาจจะกล่าวได้ว่า ผมทำได้ดีที่สุด หรือดีกว่าใคร ผมขอไม่พูด แต่ก็พยายามทำให้มากที่สุด และให้ดีที่สุด ด้วยความร่วมมือร่วมใจของทุกคน ประเทศชาติสำคัญกว่าอย่างอื่น" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ส่วนความกังวลถึงแรงกระเพื่อมจากพรรคเล็กหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนทำงานด้วยจิตใจอันบริสุทธิ์ และเชื่อมั่นว่าทุกคนก็ทำงานมาเพื่อเป้าหมายคือประชาชนและประเทศชาติ ดังนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็รับได้ทุกเรื่อง
ส่วนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ให้ความมั่นใจในการอภิปรายครั้งนี้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่จำเป็นต้องมาให้ความมั่นใจกับตนในตอนนี้ เพราะมั่นใจพล.อ.ประวิตรมาตลอดชีวิตที่ผ่านมา และต่างคนต่างไว้ใจซึ่งกันและกัน สิ่งใดที่เป็นปัญหา ก็นำมาหารือและแก้ไขปัญหารวมกัน ยืนยันทั้งตนและพลเอกประวิตรไม่เคยมีปัญหากัน
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีปฏิเสธตอบคำถามเรื่องการตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งถูกมองว่าพรรคสำรอง โดยนายกรัฐมนตรี ได้ส่ายหัว และเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทันที