พรรคเพื่อไทย (พท.) ยันมีความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลช่วงวันที่ 19-22 ก.ค.65 ตั้งเป้าหยุดยั้งการบริหารงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม้จะแพ้โหวตเสียงข้างมากในสภาแต่หวังผลการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง
"การอภิปรายไม่ไว้วางใจถือเป็นมาตรการตรวจสอบหนักสุดของระบอบรัฐสภา เพราะคณะรัฐมนตรีชุดนี้เข้ามาด้วยอำนาจที่ไม่ชอบธรรม และพยายามที่จะสืบทอดอำนาจ ไม่ได้มาจากศรัทธาของประชาชน โดยอาศัยพรรคร่วมรัฐบาล และการบิดเบือนกลไกประชาธิปไตย การขับเคลื่อนการทำงานด้านนิตับัญญัติก็ให้สินจ้างรางวัลจนถูกขนานนามว่าเป็นสภากินกล้วย ส่งผลให้ประชาชนได้รับความทุกข์มาตลอด 8 ปี จำเป็นต้องเด็ดหัวให้ได้ เอานั่งร้านออกให้ได้" นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พท.กล่าว
นพ.ชลน่าน ยอมรับว่า ในการลงมติอาจสู้เสียงข้างมากของพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้ แต่ยังหวังว่าหลังจาก ส.ส.ได้รับฟังข้อมูลการอภิปรายแล้วจะเชื่อถือในหลักฐานและข้อมูลแล้วเปลี่ยนใจมาร่วมลงมติกับฝ่ายค้าน ซึ่งเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ โดยจะแฉพฤติการณ์พฤติกรรมในการบริหารงานที่ล้มเหลว เอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้องและนำงบประมาณไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการเมือง
"หลังจากได้ออกแคมเปญไปแล้วได้รับความสนใจจากประชาชน ซึ่งฝ่ายค้านจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง ขอให้ติดตามการอภิปรายและร่วมโหวตด้วย" นพ.ชลน่าน กล่าว
ส่วนกรณี ส.ส.งูเห่านั้น ในขณะนี้ยังถือว่าเป็นสมาชิกพรรค พท.ก็ต้องปฏิบัติตามแนวทางที่พรรคกำหนดไว้ ซึ่งหากผลการลงมติออกมาเป็นอย่างไรจะมีคณะกรรมการวินัยและจริยธรรมคอยดูแลเพราะมีบทลงโทษอยู่แล้ว ซึ่งหวังว่าอาจจะมีการเปลี่ยนใจก็ได้เมื่อพิจารณาข้อมูลแล้ว
ส่วนการทำงานร่วมกับพรรคเศรษฐกิจไทยนั้นยังไม่ได้มีการพิจารณา ซึ่งในการทำงานของฝ่ายค้านมีทั้งรูปแบบพรรคร่วมฝ่ายค้านที่มีอยู่ 6 พรรค และพรรคฝ่ายค้านอิสระ อย่างกรณีของพรรคไทยศรีวิไลย์ที่จะร่วมทำงานด้วยในบางเรื่อง
นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า ในการอภิปรายวันพรุ่งนี้จะเริ่มตั้งแต่เวลา 08.30 น. โดย นพ.ชลน่าน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร จะแถลงญัตติพร้อมทั้งอภิปราย ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ต่อจากนั้นจะเริ่มอภิปราย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข เป็นคนแรก ต่อด้วยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน, นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์, นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
วันที่สองจะเริ่มจาก นายนิพนธ์ บุญญาณี รมช.มหาดไทย, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ,นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และปิดท้ายด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม
"การอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ จะเริ่มได้ในช่วงค่ำของวันที่สอง โดยจะถูกอภิปรายคนเดียว 30 ชั่วโมง" นายสุทิน กล่าว
ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า การอภิปรายครั้งนี้จะจบภายใน 4 วัน ไม่มีการขอเวลาเพิ่ม ฝ่ายค้านได้รับจัดสรรเวลา 45 ชั่วโมง รัฐบาลและรัฐบาล 18 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่เวลา 08.30-24.30 น.ยกเว้นวันสุดท้ายจะจบก่อน 24.00 น.เพื่อลงมติในวันรุ่งขึ้น ซึ่งฝ่ายค้านมีการจัดสรรเวลาและเนื้อหาลงตัวแล้ว โดยพรรคเพื่อไทยจะมีผู้อภิปราย 27 คน พรรคก้าวไกล 14 คน พรรคประชาชาติ 3 คน พรรคเสรีรวมไทยและพรรคเพื่อชาติ พรรคละ 2 คน พรรคพลังปวงชนชาวไทยและพรรคไทยศรีวิไลย์ พรรคละ 1 คน
ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ขณะนี้พรรคเศรษฐกิจไทยยังไม่ได้ประสานเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งหากมีการประสานมาก็จะพิจารณาจัดสรรเวลาให้ตามความเหมาะสม ส่วนการทำงานร่วมกันนั้นคาดว่าจะมีการหารือร่วมกันหลังการอภิปรายเสร็จสิ้น
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคฯ กล่าวว่า ในการอภิปรายครั้งนี้พรรคให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน และประเทศชาติ ซึ่งจะมีการตีแผ่ให้เห็นเครือข่ายการทุจริตกอบโกยผลประโยชน์ โดยไม่ละอายต่อสายตาประชาชน เพื่อสะสมกระสุนไว้ใช้ในการเลือกตั้งที่จะมาถึง
หลังจากการอภิปรายเสร็จแล้ว พรรคฯ จะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดยื่นเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบรัฐมนตรีทั้งหมด โดยไม่ละเว้น พร้อมทั้งขอเชิญชวนประชาชนร่วมลงมติโหวตทางแอปพลิเคชั่นไลน์ "ลงมติไล่ประยุทธ์" พร้อมทั้งแสดงความคิดเห็นถึง ส.ส.ของพรรคได้ตลอดการอภิปราย รวมถึงร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายที่จะคืนความหวัง สร้างชีวิตใหม่
"ฝ่ายค้านเสนอญัตติอภิปรายไว้ 6 กรอบ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ เข้าข่ายทั้ง 6 กรอบที่ยื่นไป" นายประเสริฐ กล่าว