นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะกำกับกรมธนารักษ์ ชี้แจงประเด็นการประมูลโครงการท่อส่งน้ำภาคตะวันออกว่า ไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนรายใด โดยเป็นการดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอน ย้ำยึดประโยชน์ภาครัฐเต็มที่
นายสันติ ระบุว่า เดิมบมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) บริหารโครงการอยู่ โดยเซ็นสัญญาตั้งแต่ปี 37 และสิ้นสุดสัญญาในปี 66 โดยทางกรมธนารักษ์ เห็นว่า หากดำเนินการหาผู้เช่าบริหารจัดการน้ำในเวลากระชั้นชิดจะเกิดปัญหาในทางปฏิบัติ และเพื่อความไม่ประมาทจึงได้จ้างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นที่ปรึกษาในเรื่องการบริหารจัดการน้ำและผลประโยชน์ในการจัดทำ TOR ในครั้งนี้ ซึ่งจากผลการศึกษาของ ม.เกษตรศาสตร์ แนะให้ใช้วิธีคัดเลือกเอกชนอย่างน้อย 3 ราย และให้มีการกำหนดเงื่อนไขประกอบการเจรจา ที่จะเป็นประโยชน์กับภาครัฐในกระบวนการคัดเลือก เพื่อให้เกิดการแข่งขันระหว่างเอกชน
โดยในการยื่นข้อเสนอครั้งที่ 1 EASTW และ บริษัท วงษ์สยาม ก่อสร้าง ได้ยื่นเสนอปริมาณน้ำ ค่าแรกเข้าเพื่อสัญญา และผลประโยชน์ตอบแทนรายปีที่เกิดความลักลั่นกัน คณะกรรมการคัดเลือกจึงได้ยกเลิกการยื่นข้อเสนอในครั้งแรก แม้ EASTW จะมีการยื่นศาลปกครองขอให้คุ้มครองชั่วคราว แต่ศาลได้ยกคำฟ้อง
ต่อมาในการคัดเลือกครั้งที่ 2 ได้เชิญบริษัททั้ง 5 บริษัทเดิมยื่นข้อเสนออีกครั้ง โดยมีบริษัทยื่นซองครั้งที่ 2 จำนวน 3 ราย โดยEASTW ให้ค่าแรกเข้าและค่าผลประโยชน์ตอบแทนรายปี กับทางราชการ 2.4 หมื่นกว่าล้านบาท ส่วน บริษัท วงษ์สยาม ก่อสร้าง จำกัด ให้ค่าแรกเข้าและค่าผลประโยชน์ตอบแทนรายปี กับทางราชการ 2.5 หมื่นกว่าล้านบาท
"ตามที่บอกว่า กรมธนารักษ์ ไม่รักษาผลประโยชน์ของรัฐจึงเป็นไปไม่ได้ ใน 30 ปีนี้จะได้กำไรที่ท่านนึกขึ้นเอง มีผลประโยชน์ถึง 7 หมื่นล้านบาท แต่จากข้อเท็จจริงการประมูลครั้งที่ 2 ที่ EASTW ให้ 24,212 ล้านบาท บริษัทวงษ์สยาม ให้ 25,693 ล้านบาท แล้วคิดว่าจะได้มากกว่านี้ ให้ลองคิดย้อนกลับไป 30 ปี EASTW ได้ให้ผลตอบแทนกับรัฐบาลถึงวันนี้ไม่ถึง 600 ล้านเลย แต่ 30 ปีจากนี้ เขาจ่ายถึง 2.5 หมื่นกว่าล้านบาท"นายสันติ กล่าว
"ผมขอเรียนท่านตรงๆ ว่า อีสวอเตอร์ก็ดี หรือวงศ์สยามก็ดี ไม่เคยเจอกันกับผม โทรศัพท์ก็เคยไม่เจอ ไม่เคยมีนิติสัมพันธ์ใดๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์ ทำไมผมต้องไปเอื้อใคร ผมมีฐานะของผมพอสมควรอยู่แล้ว ไม่มีความจำต้องเอื้อใคร ผมเอื้อให้ผลประโยชน์ของรัฐเต็มที่" นายสันติ กล่าว
นายสันติ ได้ถามกลับนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทยที่ยกข้อกล่าวหาดังกล่าวว่า ไปรู้ข้อมูลมากกว่าตนได้อย่างไร และใครจะรับงานใครมาหรือไม่ ตนไม่ได้สนใจ แต่อยากชี้แจงให้ประชาชนทราบว่า ตนมีหน้าที่กำกับดูแลกรมธนารักษ์และไม่ได้มีอำนาจมากมาย และทำหน้าที่กำกับให้หน่วยงานที่รับผิดชอบทำงานด้วยความโปร่งใส