นายวันนิวัติ สมบูรณ์ ส.ส. ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย กล่าวอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายชัยวุฒิ ธนาคมนุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมว่า มีการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับตนเอง บริวาร และพวกพ้อง ในกรณี PDPA และประเด็นศูนย์ดิจิทัลชุมชน
โดย รมว.ดิจิทัลฯ ได้เซ็นแต่งตั้งที่ปรึกษาทั้งหมด 7 คน หนึ่งในนั้นมีเพื่อน ซึ่งเป็นผู้บริหารบริษัทไอที นอกจากนี้ เพื่อนคนดังกล่าวยังไปเป็นคณะกรรมการกำกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอีกด้วย ซึ่งกรรมการคนนี้มีอำนาจหน้าที่ในการอนุมัติแผนการดำเนินงาน อนุมัติแผนการใช้เงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีของสำนักงานด้วย
นอกจากนี้ เมื่อกฎหมาย PDPA ไม่พร้อม จึงต้องมีการประชาสัมพันธ์ ซึ่งได้มีการตั้งงบประมาณ 220 ล้านบาท ใน TOR แต่มีการประมูลได้ที่ 219 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่ตั้งคำถามว่า กรณีดังกล่าวนี้ถือเป็นการเอื้อผลประโยชน์หรือไม่ในธุรกิจประเภทเดียวกัน
ส่วนการล็อกสเปกศูนย์ดิจิทัลชุมชน มีการเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง เริ่มตั้งแต่ปี 63 ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ได้ทำสัญญากับ บมจ.กสท โทรคมนาคม (CAT) โดยทาง CAT ได้จัดทำศูนย์ดิจิทัลชุมชน มีการเซ็นสัญญา 250 ศูนย์ สัญญา 1 ปี วงเงินประมาณ 277 ล้านบาท โดยโครงการบางแห่ง เช่น ในจังหวัดขอนแก่นยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ต่อมาในปี 64 ได้ตั้งงบเพิ่มอีก 500 ล้านบาท เพื่อจัดตั้งศูนย์ดิจิทัลชุมชนอีก 500 แห่ง
ทั้งนี้ การจัดเช่าอีก 500 แห่งนั้น ได้ถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ ครั้งแรกได้มีการใช้เกณฑ์ที่แปลกประหลาด เนื่องจากระเบียบพัสดุปกติต้องเป็นของใหม่ แต่ใน TOR ไม่มีข้อระบุนี้เลย ขณะเดียวกันระบุว่าจะสิ้นสุดปีงบประมาณ 30 ก.ย. แต่เขียนใน TOR เพียง 15 วัน เพื่อเอื้อต่อผู้รับเหมาศูนย์ดิจิทัลในกลุ่มแรก 250 ศูนย์ ซึ่งมีแต่ผู้รับเหมาเก่าเท่านั้นที่จะมีศูนย์ตั้งอยู่ตรงนั้น เพราะผู้รับเหมาใหม่ไม่สามารถดำเนินการได้ทันใน 15 วันแน่นอน
นายวันนิวัติ กล่าวว่า ผลสรุปคือ 250 ศูนย์ ใน TOR ครั้งแรก กับครั้งที่สองจำนวน 250 ศูนย์ เป็นที่เดียวกัน รวมทั้งหมด 500 ศูนย์ ซึ่งในความจริงแล้วควรมีทั้งหมด 750 ศูนย์ เนื่องจากมีการเบิกงบประมาณเพื่อสร้างอีก 250 ศูนย์ ดังนั้น จึงเป็นข้อพิรุธ ข้อสังเกตว่า อีก 250 ศูนย์ หายไปไหน ขณะเดียวกัน แบงค์ค้ำประกันซองยังเป็นธนาคารเดียวกัน ออกวันเดียวกัน และเลขใกล้เคียงกันใน TOR ทั้งสองรอบด้วย