นายสมบัติ ศรีสุรินทร์ ส.ส. สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในประเด็นที่นายกฯ ไม่ปฏิบัติตามหลักนิติธรรม กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและจีน ปูนบำเหน็จให้ทหารที่เป็นผู้ต้องหา โดยขัดต่อรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และระเบียบกระทรวงกลาโหม โดยข้อหาคือส่อว่าจงใจปฏิบัติหน้าที่และใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ และกฎหมายกระทำการฝ่าฝืนระเบียบหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างมาก ปกป้องและสนับสนุนผู้ใต้บังคับบัญชา บริวาร และพวกพ้องที่กระทำผิดกฎหมายโดยไม่คำนึงถึงประเทศชาติและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไม่เคารพหลักนิติรัฐและหลักนิติธรรมสิทธิมนุษยชน ทำลายระบบคุณธรรมในระบบราชการ
สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 54 รวมเป็นระยะเวลา 11 ปี โดยปัจจุบันนี้คดียังไม่สิ้นสุด และยังไม่หมดอายุความ เกิดเหตุที่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ มีการฆาตกรรมลูกเรือชาวจีน 13 ราย กลางแม่น้ำโขง โดยลูกเรือคนจีน 12 คน เสียชีวิตจากการโจมตี ส่วนอีก 1 คน หายสาบสูญ
นายสมบัติ กล่าวว่าเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับพล.อ.ประยุทธ์ เนื่องจากขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก มีพฤติการณ์ที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ปกป้อง ช่วยเหลือผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรมที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของตน ทำให้กระบวนการยุติธรรมล่าช้ากว่า 10 ปี แสดงให้เห็นการไม่เคารพหลักสิทธิมนุษยชน และมาตรฐานทางจริยธรรม ทำลายระบบคุณธรรมในระบบราชการทหาร
"หลังผ่านมา 11 ปีแล้ว ยังไม่สามารถเอาตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้ เพราะราชการทหารดึง ประวิงเวลา คดีซ่อนเร้นศพในที่เกิดเหตุ หมดอายุความไปแล้ว ส่วนคดีฆาตกรรมมีอายุความ 20 ปี เมื่อรัฐบาลรู้ว่าจะมีการอภิปราย ก็ได้มีความคืบหน้า กองทัพได้นำผู้ต้องหาส่งฟ้องในวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งกว่าจะดำเนินการ เราได้ปล่อยเวลามาเนิ่นนาน กระทบต่อการค้าขายระหว่างไทยจีน เสียโอกาส เสียเพื่อนที่ดีไปแล้วกว่า 10 ปี" นายสมบัติ กล่าว