พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตอบคำถามผู้สื่อข่าวในระหว่างลงพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ถึงกรณี 6 ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ โหวตไม่ไว้วางใจ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในการอภิปรายที่ผ่านมาว่า "ไปถามเขาดู" โดย พล.อ.ประวิตร ตอบด้วยสีหน้าและอารมณ์ดี
หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ต้องยอมรับกับสิ่งที่ ส.ส.สมุทรปราการ ทั้ง 6 คนได้ลงคะแนนโหวตไป ซึ่งคงเป็นความน้อยเนื้อต่ำใจ ซึ่งก็ยอมรับว่าไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ ส.ส.สมุทรปราการ ก็ได้มาขอโทษแล้ว
อย่างไรก็ตาม คงต้องนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค และเรื่องนี้มีบทลงโทษอยู่แล้ว
"เราก็ต้องรับที่เขาโหวต...มันเป็นเรื่องความน้อยเนื้อต่ำใจของเขา ผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไร แต่เขาก็ขอโทษแล้ว" พล.อ.ประวิตร ระบุ
ส่วนกรณีที่นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ระบุว่าไปรับเงินในมูลนิธิป่ารอยต่อฯ นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "รับกับใคร ผมจะรู้ไหม รับไหม รับกับใคร ไม่เจอ ผมเจอก็เจอในเรื่องของการทำงานเท่านั้นเอง" โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ถ้าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะรับตรวจสอบเรื่องนี้ ก็ให้ตรวจสอบได้เลย
"รับไปเลย ก็เหมือนเรื่องนาฬิกา ก็รับไปเลย เรื่องจริงเป็นอย่างไร ก็ว่าไป ผมไม่กลัวหรอก" หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ พล.อ.ประวิตร เดินทางมาถึงเทศบาลบางเมือง จ.สมุทรปราการ นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ ได้ก้มกราบเท้าพล.อ.ประวิตร ทันที ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ก็รับไหว้
โดยนายกรุงศรีวิไล กล่าวเปิดใจว่า สาเหตุที่กราบพล.อ.ประวิตร เพราะอยากขอโทษที่ลงมติไม่ไว้วางใจพล.อ.อนุพงษ์ แต่ส่วนตัวต้องการให้ พล.อ.ประวิตร เป็น รมว.มหาดไทยแทน โดยให้เหตุผลว่า พล.อ.อนุพงษ์ เขียนโครงการอะไรไปก็ไม่ตอบรับไม่พิจารณางบประมาณ จนเป็นที่มาของการที่ 6 ส.ส. สมุทรปราการ ลงมติไม่ไว้วางใจเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา
"พล.อ.ประวิตร มีความเหมาะสมที่จะเป็น รมว.มหาดไทย เพราะเป็นผู้ที่มากบารมี ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายเห็นก็รู้สึกดี เป็นคนที่มีน้ำใจ ไม่ว่าพวกไหน รักทุกคนให้ความเป็นธรรมทุกคน จึงคิดว่าผู้ที่เป็นแม่บ้านของประเทศ จะต้องเป็นคนลักษณะนี้" นายกรุงศรีวิไล กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ พล.ประวิตร ได้ลงพื้นที่ จ.สมุทรปราการ เพื่อติดตามความพร้อมพื้นที่รับน้ำที่มีการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบแก้ปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง โดยในช่วงปี 2561-2564 ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการไปแล้ว 148 โครงการ มีประชาชนได้รับประโยชน์ 89,782 ครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่ 21,280 ไร่ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งศูนย์บริหารจัดการคุณภาพน้ำ เทศบาลปู่เจ้าสมิงพราย ซ่อมแซมคันป้องกันน้ำกัดเซาะ อ.บางบ่อ ซ่อมคันกั้นน้ำสถานีสูบน้ำคลองด่าน 2 ปรับปรุงกำแพงป้องกันน้ำเค็ม เชื่อมถนนปานวิถี-ประตูระบายน้ำชลหารพิจิตร โครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบายน้ำป้องกันน้ำเค็ม สถานีสูบน้ำบาง ซ่อมแซมเครื่องกว้านบานระบายน้ำ ประตูระบายน้ำคลองสวน โดยพรรคพลังประชารัฐ มี ส.ส.ในพื้นที่ทำหน้าที่ประสานงานช่วยติดตามโครงการต่างๆ ให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล
นอกจากนี้ ยังมีแผนระยะยาวปี 2566-2567 ตั้งศูนย์บริหารจัดการคุณภาพน้ำ เทศบาลเมือง ตั้งศูนย์บริหารจัดการคุณภาพน้ำ เทศบาลนครสมุทรปราการ สร้างประตูระบายน้ำพร้อมระบบสูบน้ำคลองชลประทาน ปรับปรุงประตูน้ำระบาย และสถานีสูบน้ำตำหรุอีกด้วย