ที่ประชุมคณะกรรมการประสานงาน (วิป) 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และวุฒิสภา ซึ่งมีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธาน ได้หารือถึงการเลื่อนวาระร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาพิจารณาก่อนกฎหมายที่อยู่ก่อนหน้า โดยการประชุมใช้เวลา 30 นาที
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เปิดเผยว่า ประธานรัฐสภา อยากหารือเรื่องการประชุมรัฐสภาในสัปดาห์นี้ให้เรียบร้อยและเป็นประโยชน์ให้มีประสิทธิภาพที่สุด เพราะมีวาระอยู่ โดยพิจารณาต่อเนื่องตามวาระคือ ร่าง พ.ร.บ.ปรับเป็นพินัย และร่าง พ.ร.บ.กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม จากนั้นจะเป็นร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือก ตั้งส.ส.
ดังนั้นแนวทางที่จะทำอย่างไรให้เกิดความราบรื่นเรียบร้อยมี 2 ประการ คือ 1.พิจารณาไปตามวาระ และ 2.ถ้าเป็นไปตามวาระอาจมีสมาชิกหรือสังคมบางส่วนคิดว่ากฎหมายลูกจะเสร็จทันหรือไม่ และทำไมไม่เลื่อนขึ้นมาพิจารณาก่อน ซึ่งที่ประชุมหารือกันแล้วเห็นว่าควรเป็นไปตามวาระ แต่ขอให้สมาชิกกระชับเวลาอภิปรายกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ เพื่อให้กฎหมายลูกขึ้นมาพิจารณาเร็ว เพราะเราคิดว่ากฎหมายทุกฉบับมีความสำคัญเหมือนกัน ทั้งนี้ นายชวนได้กำหนดให้ประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 9-10 ส.ค.65 ดังนั้นถ้ากฎหมายลูกไม่เสร็จก็สามารถพิจารณาต่อได้
"กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. แม้จะเพิ่มเข้ามาใหม่ 2 มาตรา สามารถเสร็จทันสมัยประชุมนี้อย่างแน่นอน ส่วนที่ กมธ.เสียงข้างน้อย สงวนความเห็นนั้นต้องติดตามการอภิปรายในที่ประชุม ซึ่งไม่มีอะไรที่ต้องกังวล" นายสุทิน กล่าว
นายสุทิน กล่าวว่า การประชุมร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 จะเข้าพิจารณาในวาระ 2-3 ในวันที่ 17-19 ส.ค.65 ดังนั้นเดือนนี้จะต้องทำงานให้เต็มที่ เพราะสภาจะปิดสมัยประชุมในวันที่ 16 ก.ย.65 ซึ่งเรามีเวลาเหลือน้อยจึงต้องร่วมมือกัน ดังนั้น วันนี้ ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และ ส.ว. จึงเห็นพ้องด้วยดี ไม่มีอะไรเห็นต่างกัน
ด้านนายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และวุฒิสภา เห็นพ้องกันว่าให้พิจารณาไปตามวาระการประชุม โดยมั่นใจว่าร่างกฎหมายลูกจะพิจารณาเสร็จทันสมัยประชุมนี้ตามกรอบ 180 วัน ซึ่งจะครบวันที่ 15 ส.ค.นี้อย่างแน่นอน
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า หากเลื่อนกฎหมายลูกขึ้นมาพิจารณาก่อนอาจถูกกล่าวหาจากประชาชนว่า นำเรื่องการเมืองมาพูดกันมากเกินไป แต่หากยังมีฝ่ายที่ยังติดใจว่าควรจะเลื่อนร่างกฏหมายลูกพิจารณาก่อน สามารถขอที่ประชุมรัฐสภาเลื่อน เพื่อของดใช้ข้อบังคับขึ้นอยู่ว่าที่ประชุมจะเห็นด้วยหรือไม่