นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "การเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรมกับการพัฒนาการเมืองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข" ที่สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า วิธีการจัดการเลือกตั้งจะกำหนดการเลือกตั้งว่าเป็นแบบใดจะกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญหรือกฏหมายเลือกตั้ง ซึ่งจะเป็นการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตหรือรวมเขต โดยในการเลือกตั้งเมื่อปี 62 เป็น ส.ส.เขต 350 คนมาจาก 350 เขต เขตละ 1 คน อีก 150 คน เป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ แต่ขณะนี้ที่มีการแก้รัฐธรรมนูญ คือ ให้มี ส.ส.เขต 400 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน และประชาชนต้องเลือกบัตร 2 ใบ ซึ่งวิธีการจัดการเลือกตั้งในแต่ละประเทศก็จะแตกต่างกัน และการเลือกตั้งในประเทศไทยในปัจจุบัน คือ การเลือกตั้งแบบสัดส่วน
ขณะที่ในต่างประเทศ อย่างอังกฤษเขาไม่ยุ่งยากมาก 1 คน 1 เขตจบ สหรัฐอเมริกามีพิสดารออกไป เยอรมนีก็ยิ่งพิสดารใหญ่ ไทยเคยพิสดารและกำลังพิสดารยิ่งขึ้นในไม่ช้า และกำลังย้อนกลับไปอย่างเก่าอีกหรือไม่ก็ไม่รู้ ทั้งหมดเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ เราเรียกว่า พัฒนาการ
นายวิษณุ กล่าวว่า เรื่องการแบ่งเขตเป็นอาวุธที่สำคัญที่สุดของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้การเลือกตั้งสุจริตและโปร่งใส และเป็นธรรม เที่ยงธรรม
ทั้งนี้ การเลือกตั้งต้องอำนวยความสะดวกผู้ใช้สิทธิให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ และการเลือกตั้งที่ดีต้องประกาศผลการเลือกตั้งได้เร็ว และปัจจุบันมีการพัฒนาการเลือกตั้งให้มีความสุจริตและเที่ยงธรรมมากขึ้น แต่อาจจะยังไม่สุจริตและเที่ยงธรรมพอ ก็ต้องพัฒนาต่อไป และไม่รู้ว่าการเลือกตั้งในอนาคตอาจจะผันแปรไปเป็นอย่างไร
"การสุจริตและเที่ยงธรรมจึงเป็นหัวใจของการเลือกตั้ง แต่มันยังเป็นปริศนา ทำแบบไหน ทำอย่างไร วันนี้พัฒนามาจนถึงว่า การเลือกตั้งว่าเอา 500 หาร หรือ หาร 100 ก็เป็นตัวแปรหนึ่งในความหมายของคำว่า สุจริตและเที่ยงธรรมด้วยเหมือนกัน" นายวิษณุ กล่าว