ที่ปรึกษากฎหมายของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)มีมติ 6 ต่อ 1 เสนอความเห็นตีความข้อกฎหมายเกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคการเมืองว่า หากกรรมการบริหารพรรคคนใดกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งให้ถือว่าพรรคการเมืองต้องมีส่วนรู้เห็นและรับผิดชอบ ตามมาตรา 103 วรรค 2 ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.
"ที่ปรึกษากฎหมายมีความเห็นเสียงข้างมาก 6 เสียงต่อ 1 เสียง ถ้ากรรมการบริหารพรรคทำก็ถือว่าพรรคการเมืองเข้าข่ายมาตรา 103 วรรค 2 แล้ว" นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ หนึ่งในคณะที่ปรึกษากฎหมายของ กกต.กล่าว
และกรณีจากดังกล่าว กกต.ต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคการเมืองให้เป็นไปตามมาตรา 237 ในกฎหมายรัฐธรรมนูญปี 50
"ที่ กกต.ถามมาว่า เมื่อเข้าข่าย 103 วรรค 2 แล้ว กกต.จะไม่ส่งศาลรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ ที่ปรึกษามีความเห็นว่า มาตรา 103 วรรค 2 มันเขียนมัดไว้ ให้ถือว่าเป็นไปตามนั้น ที่ปรึกษาจึงมีความเห็นว่าให้ส่งไปตามนั้น" นายสมคิด กล่าว
การตีความข้อกฎหมายดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจาก กกต.มีมติเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ผู้สมัคร ส.ส.ชัยนาท ซี่งเป็นกรรมการบริหารพรรคชาติไทย และผู้สมัคร ส.ส.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นรองหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย
นายสมคิด กล่าวว่า คณะที่ปรึกษากฎหมายจะเร่งสรุปรายละเอียดของการตีความกฎหมายทั้ง 2 ข้อส่งให้ กกต.เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาคดีดังกล่าวในสัปดาห์หน้า
--อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--