นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึง กรณีการชุมนุมของกลุ่มต่าง ๆ ในช่วงนี้ เพื่อกดดันให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งว่า เรื่องวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของนายกรัฐมนตรีนั้น นายกรัฐมนตรีขอให้ยึดหลักกฎหมายเป็นสำคัญ เพราะทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย รวมถึงตัวนายกรัฐมนตรีเองด้วย ดังนั้นผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาอย่างไรจึงขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล นายกรัฐมนตรีไม่อาจก้าวล่วงอำนาจศาลได้
พร้อมกันนี้ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในกฎหมายและหลักนิติธรรมของบ้านเมือง ซึ่งเป็นกลไกสำคัญของการอยู่ร่วมกันในสังคม และช่วยให้ประเทศชาติสงบสุข
นอกจากนี้ ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันที่ยังมีความเสี่ยงต่อการแพร่และติดเชื้อโควิด-19 การรวมตัวชุมนุมดังกล่าวจึงเสี่ยงที่จะขัดต่อกฎหมายห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามประกาศก่อนหน้านี้ ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการรวมตัวดังกล่าว และขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางและบริเวณที่มีการชุมนุม เช่น รอบศาลาว่าการ กทม., แยกราชประสงค์, อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และทำเนียบรัฐบาล เพราะอาจไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังคงทำงานตามหน้าที่ต่อไปได้ ยังไม่มีเหตุการณ์อะไร นายกรัฐมนตรียังปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจ
ส่วนกรณีที่มีหลายกลุ่มออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมกดดันนั้น ครม.ก็ต้องหวั่นไหวเรื่องที่ประชาชนไม่พอใจ เราก็ต้องรับฟัง และดูเหตุดูผลดูกฎหมาย ซึ่งตอนนี้ไม่รู้จะตอบอะไร เพราะศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้มีคำวินิจฉัยออกมา
"ต้องรอฟังศาล ถ้าพูดไปก่อนจะเป็นการละเมิดอำนาจศาล อย่าให้มันมีประเด็น มันไม่ใช่หน้าที่ของผม เพราะผมไม่เกี่ยวข้อง" นายอนุทิน กล่าว
ส่วนกรณีที่มีข่าวจะเดินทางไปหาดใหญ่เพื่อเปิดตัวนายไพร พัฒโน เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 3 พรรคภูมิใจไทยนั้น นายอนุทิน ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม