นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย 43 คน ร่วมลงชื่อในคำร้องของ นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.พรรคพลังธรรมใหม่ ที่ขอให้ประธานรัฐสภาส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ว่า เป็นไปตามมติของพรรคที่เห็นว่า หากมีปัญหาข้อกฎหมายที่สมควรให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย พรรคก็จะร่วมลงชื่อเพื่อให้ประเด็นต่างๆ ที่มีปัญหาได้ข้อยุติ ไม่ปล่อยให้เกิดความคลุมเครือ เพราะหากปล่อยให้กฎหมายมีความคลุมเครือไปจนถึงการเลือกตั้งจริง ประเด็นคลุมเครือต่างๆ อาจถูกหยิบยกมายื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ และอาจทำให้ศาลต้องวินิจฉัยกันอีกว่าการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่
นายศุภชัย ยืนยันว่า การร่วมลงชื่อครั้งนี้ไม่ได้เป็นการยื้อร่างกฎหมายเลือกตั้งเพื่อไม่ให้เกิดการเลือกตั้งขึ้น แต่ทำเพื่อความชัดเจน เพราะประวัติศาสตร์เคยมีกรณีการเลือกตั้งเป็นโมฆะมาแล้ว เมื่อปี 2557 จนต้องมีการจัดการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าประเทศไม่ควรจะเสียเวลาไปตีความกฎหมายในช่วงเวลาอย่างนั้น ดังนั้นการให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความตั้งแต่เวลานี้ น่าจะเป็นการดี
สำหรับประเด็นสำคัญที่พรรคภูมิใจไทยเห็นว่าควรให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย คือเรื่องสัดส่วนพึงมีในการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ยังต้องมีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 93,94 อยู่หรือไม่ และประเด็นว่า การเลือกตั้งการตามร่างกฎหมายดังกล่าวแยกกันเด็ดขาดระหว่าง ส.ส.เขต 400 คน กับ ส.ส. บัญชีรายชื่อ 100 คน แล้วหรือไม่ รวมถึงประเด็นการใช้ร่างกฎหมายฉบับที่ยัง ไม่ได้มีการพิจารณา เนื่องจากกรณีครบ 150 วันว่า ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ส่วนเรื่องของสูตรเลือกตั้ง พรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่า ไม่ว่าจะสูตรหาร 100 หรือหาร 500 พรรคไม่ได้มีปัญหา พร้อมสู้ไปตามกติกาที่ชัดเจน ไม่คลุมเครือ
"พรรคภูมิใจไทยจึงมีมติร่วมลงชื่อในการยื่นเรื่องครั้งนี้ ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับประเด็นการเห็นด้วยกับสูตรหาร 500 หรือสูตรหาร 100 เพียงแต่ต้องการให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ชัดเจนว่าการดำเนินการครั้งนี้ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่" นายศุภชัย กล่าว