นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกป.ป.ช. เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร กรณีกล่าวหานายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กับพวกรวม 42 ราย ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบในการเสนอและพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน ฉบับที่ .. พ.ศ. ?. (พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย)
เนื่องจากพฤติการณ์ของนายสมศักดิ์ กับพวกร่วมกันใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ทำผิดข้อบังคับในการประชุมสภาฯ ปี 2551 หลายประการ เช่น ทำหน้าที่ของมติที่ประชุมสภา มีการเร่งรีบให้ ส.ส.ได้ลงมติ และไม่ทำหน้าที่ส่งร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ที่มีการโต้แย้งทักท้วงว่า การแก้ไขเพิ่มเติมร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้เป็นกฎหมายเกี่ยวกับการเงิน ต้องส่งให้หน่วยงานอื่นของรัฐพิจารณาก่อนหรือไม่
การกระทำดังกล่าวถือว่าไม่เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย เป็นการดำเนินการที่มิชอบ คณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงมีมติชี้มูลความผิดนายสมศักดิ์กับพวก ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตหรือโดยมิชอบ ตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. ปี 2542 แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 213/1 ปัจจุบันได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อพิจารณาแล้ว
"การกระทำของนายสมศักดิ์ไม่ทำหน้าที่ตามระเบียบข้อบังคับสภาฯ เร่งรีบผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษสุดซอย โดยไม่ทำหน้าที่ของมติที่ประชุมสภาว่า การขอแก้ไขเพิ่มเติมร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เป็นการขัดกับหลักการแห่งร่างหรือไม่ อย่างไรมีการเสนอมาตราหนึ่งเข้ามา ตามหลักการต้องส่งเข้าที่ประชุมสภาพิจารณาก่อนว่า สิ่งที่ส่งมาใหม่ขัดหลักการหรือไม่ แต่คุณสมศักดิ์ไม่เสนอ นี่ก็ขัดแล้ว อีกกรณีไม่ส่งร่าง พ.ร.บ.ที่มีการโต้แย้งทักท้วงว่า พ.ร.บ. ดังกล่าวอาจเข้าข่ายการเงิน เพราะมีการจ่ายชดเชยเยียวยาเกี่ยวกับการนิรโทษกรรม ต้องส่งให้ใครพิจารณาหรือไม่อย่างไร แต่ปรากฏว่าท่านไม่ทำหน้าที่ลักษณะนี้" นายนิวัติไชย กล่าว