นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน กล่าวว่า กมธ. ได้พิจารณากรณีต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มที่รัฐบาลจะผลักภาระดังกล่าวที่เกิดขึ้นจากความผิดพลาดในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลไปให้กับประชาชนด้วยการขึ้นค่าไฟ โดยคาดว่าภายในช่วงสิ้นปีนี้ ค่าไฟฟ้าจะสูงขึ้นถึง 5 บาท/หน่วยแน่นอน ซึ่ง กมธ.ส่วนใหญ่มีความเห็นว่า หากรัฐบาลยังทำเป็นทองไม่รู้ร้อน กรรมจะตกอยู่ที่คนไทยทั้งแผ่นดิน
นายจิรายุ ขอให้รักษาการนายกรัฐมนตรี เร่งแก้ไขเป็นวาระเร่งด่วน ดังนี้
1. ขอให้ยกเลิกการกู้เงิน เพื่อมาชดเชยให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ซึ่งกู้เงินไปแล้ว 1.1 แสนล้านบาท มีแนวโน้มที่จะขอกู้เพิ่มอีก เนื่องจากสถานการณ์พลังงานของประเทศและโลกจะเข้าสู่โหมดราคาสูงในช่วงหน้าหนาว
2. ขอให้ยกเลิกหรือทบทวนการรับซื้อไฟฟ้าจากเอกชนที่ไปลงทุนในประเทศลาว จำนวน 3,800 เมกะวัตต์ ที่จะเริ่มต้นในปี 2570 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและความต้องการใช้ไฟถดถอยลงอย่างมีนัยสำคัญ
3. ขอให้รัฐบาลยกเลิกหรือชะลอการจ่ายค่าความพร้อมของโรงงานผลิตไฟฟ้าเอกชน ที่รัฐบาลต้องแบกรับภาระปีละแสนล้านบาท หรือขอชะลอการจ่าย โดยเร่งนำเข้าสู่มติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นวาระเร่งด่วน
4. ขอให้เร่งแก้ไขปัญหาข้อพิพาทระหว่างบริษัทเชฟรอน และโททาล กรณีแท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติในทะเล ที่ไม่สามารถสูบขึ้นมาใช้ได้เต็มกำลัง ทำให้รัฐบาลต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากต่างประเทศที่มีราคาสูงเกินจริง มาใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าในขณะนี้
"หากรัฐบาลยังเพิกเฉย ปล่อยให้ข้าวของแพง ราคาค่าไฟพุ่งสูงแบบไม่หยุด ก็ขอให้ประชาชนจดจำผลงานของรัฐบาลชุดนี้ เลือกตั้งครั้งหน้า ขอให้นึกถึงคนในรัฐบาลนี้ที่ทำเจ๊งทั้งแผ่นดิน" นายจิรายุ กล่าว