นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่นายนิพนธ์ บุญญามณี ลาออกจากตำแหน่ง รมช.มหาดไทย เพื่อไปต่อสู้คดีทุจริตรถอเนกประสงค์ หลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดไม่เบิกจ่ายเงินค่ารถอเนกประสงค์ซ่อมบำรุงในสมัยดำรงตำแหน่ง นายก อบจ.สงขลาว่า นายนิพนธ์ได้แจ้งตนก่อนหน้านี้ ซึ่งได้ให้กำลังใจที่จะต่อสู้คดีไปแล้ว ที่ผ่านมานายนิพนธ์ได้ทำหน้าที่ รมช.มหาดไทยด้วยความทุ่มเท มีผลงานเป็นรูปธรรม
ขณะเดียวกันยังไม่มีการส่งสัญญาณเรื่องปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยหลังกลับจากประเทศมองโกเลียแล้วจะไปหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถึงแม้จะหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว แต่ก็ยังถือเป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้นการปรับ ครม.จึงเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีโดยตรง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ยังคงเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเหมือนเดิม ไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไร
ในส่วนของพรรค ปชป. ไม่ได้มีปัญหาภายในพรรค หากได้รับสัญญาณการปรับ ครม.แล้วก็จะเป็นไปตามขั้นตอนการคัดเลือกภายในพรรค ซึ่งเป็นวิถีทางของพรรคฯ ยึดตามประชาธิปไตย เชื่อว่าสามารถจัดการได้ ไม่มีปัญหาภายใน หากจะมีการปรับ ครม.ทางพรรคฯ มีกติกาอยู่แล้ว ซึ่งทุกคนทราบดี เป็นทั้งระเบียบ ข้อบังคับ และวิธีปฏิบัติที่ทุกคนทราบแล้ว ตนไม่จำเป็นต้องพูดลงไปในรายละเอียด
ขณะที่นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ แสดงความชื่นชมกรณีที่นายนิพนธ์ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง รมช.มหาดไทย เพื่อไปต่อสู้คดีในชั้นศาล โดยเชื่อว่าการลาออกไม่เกี่ยวข้องกับกระบวนการพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญที่นัดฟังคำวินิจฉัยเรื่องคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีในวันที่ 14 ก.ย.นี้
สำหรับผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรมช.มหาดไทย แทนนายนิพนธ์ นั้น นายชินวรณ์ กล่าวว่า ในสัดส่วนนี้เข้าใจว่าเป็นโควต้าของภาคใต้ ซึ่งกระบวนการสรรหาผู้ที่จะมาเป็นรัฐมนตรีต้องดำเนินการตามข้อบังคับของพรรคประชาธิปัตย์ และมีการระบุชัดเจนว่าเมื่อมีตำแหน่งรัฐมนตรีว่างลง พรรคจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง แต่ตนไม่ทราบว่าใครจะเป็นแคนดิเดทบ้าง
พร้อมเชื่อว่ากรรมการบริหารพรรคจะหาคนที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งได้ในช่วงระยะเวลาสุดท้ายของรัฐบาล เชื่อว่าคงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร คงพูดคุยกันได้ในพรรคประชาธิปัตย์
ขณะที่การปรับครม. เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี และอยู่ที่พรรคต้องหาช่วงจังหวะและโอกาสที่เหมาะสม เพราะขณะนี้ไม่ได้มีนายนิพนธ์เพียงคนเดียว ยังมีกรณีของรัฐมนตรีคนอื่นด้วย ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะมีการคุยกันในระดับหัวหน้าพรรคและผู้ที่มีอำนาจปรับ ครม.