นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคพลังประชาชน ในฐานะคณะทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อศึกษาประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 ยืนยันว่า พรรคพลังประชาชน(พปช.) พร้อมด้วยพรรคร่วมรัฐบาลจะเดินหน้าในการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน โดยประเด็นเร่งด่วนที่ต้องแก้ไขก่อน ประกอบด้วย มาตรา 237, มาตรา 266 และ มาตรา 190
สำหรับมาตรา 237 ในรัฐธรรมนูญปี 50 เห็นว่าจำเป็นต้องแก้ไขในหลักการเพื่อไม่ให้มีการยุบพรรคการเมืองได้ง่ายเกินไป ซึ่งการยุบพรรคยังคงมีอยู่ต่อไปเพียง แต่เห็นว่าขั้นตอนรายละเอียดไม่ควรนำมาใส่ไว้ในรัฐธรรมนูญ ควรยกไปกำหนดไว้ในกฎหมายลูก ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแก่ศาลในการใช้ดุลยพินิจ พร้อมยืนยันว่าไม่ใช่การแก้ไขเพื่อหลีกหนีการยุบพรรคแน่นอน
"การยุบพรรคยังคงมีอยู่ แต่มีเทคนิคการเขียนกฎหมายมี 2 วิธี คือ 1.ในรัฐธรรมนูญพูดเพียงหลักการ แต่รายละเอียดให้ไปอยู่ในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ใจผมอยากให้เป็นอย่างนั้น การมาเขียนละเอียดเรื่องยุบพรรคไว้ในรัฐธรรมนูญจะเป็นปัญหาแก่ศาลเวลาพิจารณาคดี ศาลจะให้ดุลยพินิจยาก" นายพีรพันธุ์ กล่าวในรายการวิทยุเช้านี้
ส่วนกรณีที่พรรคชาติไทยเสนอว่าในการแก้ไขมาตรา 237 ควรเขียนให้ชัดเลยว่าให้มีผลย้อนหลังเพื่อเพิกถอนเรื่องการยุบพรรคในขณะนี้นั้น นายพีรพันธุ์ กล่าวว่า คงไม่จำเป็นต้องเขียนระบุไว้ในกฎหมาย เพราะตามหลักสากลของกฎหมายโดยทั่วไปแล้วในส่วนที่เป็นคุณจะมีผลย้อนหลังเองโดยอัตโนมัติ แต่หากในส่วนที่เป็นโทษจะไม่มีผลย้อนหลัง
"มันจะย้อนโดยผลของกฎหมาย โดยหลักของกฎหมายว่าถ้ากฎหมายเป็นคุณมันจะย้อนหลังเอง นี่เป็นหลักกฎหมายสากล ถ้าเขียนว่าวันนี้การยุบพรรคจะทำได้ในประเด็นนี้ 1, 2, 3, 4 และบังเอิญ case ที่เกิดขึ้นเป็น case ที่ 5 กฎหมายที่เขียนไว้อย่างนี้ ศาลก็ต้องมาดูว่าที่มันยังอยู่ มันขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญใหม่ไหม ถ้าขัดมันก็ใช้ไม่ได้เอง"นายพีรพันธุ์ กล่าว
นอกจากนี้ พรรคพลังประชาชนยังเห็นว่า ควรมีการแก้ไขอีก 2 มาตรา คือ มาตรา 266 ในเรื่องบทบาทของ ส.ส.ที่รัฐธรรมนูญปี 50 ระบุว่าห้ามเข้าไปก้าวก่ายการทำงานของข้าราชการประจำทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งควรแก้ไขให้ชัดเจนว่าถ้าเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์สาธารณะสามารถทำได้ และ มาตรา 190 ที่ต้องแก้ไขเพื่อลดอุปสรรคต่อการทำสัญญาหรือความตกลงกับต่างประเทศ
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--