"เราจะไม่ไปกดดันการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่กดดันการทำงานของพล.อ.ประยุทธ์ เชื่อว่าวันที่ 30 ก.ย. จะเป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง คณะหลอมรวมประชาชน จึงขอนัดชุมนุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ที่ราชประสงค์ ช่วง 5 โมงเย็น" นายจตุพร กล่าว
โดยในวันที่ 18 ก.ย. 65 และ 25 ก.ย. 65 คณะหลอมรวมประชาชนจะจัดกิจกรรมเสวนาในหัวข้อเดียวกันคือ "นับหนึ่งประเทศไทยด้วยอธิปไตยของประชาชนหลัง 30 กันยา" ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แต่เปลี่ยนตัววิทยากร โดยวิทยากรในวันที่ 18 ก.ย.65 ได้แก่ นายเจษฎ์ โทณวณิก อดีตกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) , นายพิชัย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต, นายธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง และนายบรรจง นะแส ส่วนวันที่ 25 ก.ย. 65 ได้แก่ นายปราโมทย์ นาครทรรพ, นายพิภพ ธงชัย, นายสุริยะใส กตะศิลา และ นายสาวิทย์ เสียงหวาน
ด้าน นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา แกนนำฯ กล่าวว่า สภาพปัญหาของประเทศในขณะนี้ แสดงถถึงความอ่อนแอในทุกมิติของสังคม เกิดเหตุการณ์ที่แตกต่างไปจากการพิจารณาคดีอื่นๆ เช่น เอกสารประกอบคดีหลุด ข่าวผลการลงมติหลุด ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของศาลรัฐธรรมนูญ มีความพยายามทำให้เกิดประเด็นไม่ยอมรับข้อเท็จจริงว่าอยู่มาครบ 8 ปีแล้ว และตามหลักสากล การตีความกฎหมายใดๆ ต้องเป็นการจำกัดการใช้อำนาจ ไม่ใช่การต่ออำนาจ แต่ในที่สุดแล้วเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยให้สอดคล้องกับความเป็นจริง
กรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับรัฐบาลรักษาการ หากศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ครบวาระ 8 ปีเมื่อวันที่ 24 ส.ค.65 นั้น รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ควรทำหน้าที่รักษาการ ควรหยุดปฏิบัติหน้าที่แล้วให้ปลัดกระทรวงที่เป็นหัวหน้าส่วนราชการทำหน้าที่รักษาการต่อไป