นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า ภท. ไม่มีปัญหาความขัดแย้งกับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กรณีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง เพราะเป็นเรื่องของท่าทีและการตัดสินใจของแต่ละพรรค ไม่ได้มีปัญหากันส่วนตัว
ส่วนกรณีมีข้อเสนอให้ยกเลิกประกาศสาธารณสุขออกไปก่อน เนื่องจากร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ยังไม่ผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎรนั้น นายอนุทิน มองว่า คนที่เสนอแนวคิดนี้ไม่ได้ศึกษาเรื่องการใช้กฎหมายอย่างละเอียด ทุกวันนี้กัญชาได้ถูกปลดจากการเป็นยาเสพติด ตั้งแต่เดือน ก.พ.65 และมีผลตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย.65 ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ออกประกาศควบคุมการใช้กัญชาเพื่อคลายความกังวลของประชาชน ซึ่งจริงๆ แล้วสามารถใช้ พ.ร.บ.สาธารณสุข ในการควบคุมการใช้กัญชาได้ เพราะวัตถุประสงค์เพื่อใช้ทางการแพทย์
การที่ ภท. เสนอ พ.ร.บ.กัญชาฯ เพราะต้องการให้ประชาชนคลายความกังวล เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ และประชาชนยังยึดติดกับภาพลักษณ์ของกัญชาที่เป็นยาเสพติด จึงต้องมีกฎหมายเฉพาะมาดำเนินการให้เกิดความสบายใจขึ้น แต่จริงๆ แล้วการบังคับใช้และการควบคุมไม่แตกต่างกัน ดังนั้นการที่จะเสนอให้ รมว.สาธารณสุข ประกาศถอนกัญชาให้กลับมาเป็นยาเสพติด ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิด เพราะรัฐมนตรีไม่มีสิทธิประกาศให้เป็นยาเสพติดหรือไม่ ทุกอย่างต้องมาจากมติคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) ซึ่งในที่ประชุมมีการหยิบยกมาอภิปรายหลากหลาย และส่วนตัวมองว่า เป็นการใช้การเมืองนำการใช้ประโยชน์ของประชาชนมากกว่า
"ไม่ใช่ประเด็นข้อเท็จจริงว่าไม่ได้คิดถึงประชาชน เป็นการเอาการเมืองนำประโยชน์ประชาชน ก็เห็นว่าคนที่ทำเช่นนี้ สภาพพรรคเป็นอย่างไร" นายอนุทิน กล่าว
ส่วนในช่วงที่กฎหมายยังไม่แล้วเสร็จ แต่มีประชาชน และผู้ประกอบการที่ปลูกกัญชาไปแล้ว รัฐบาลจะดูแลอย่างไรนั้น นายอนุทิน ชี้แจงว่า ไม่ต้องดูแลอะไร เพราะประกาศของสาธารณสุขมีผลบังคับใช้อยู่แล้ว ซึ่งพิจารณามาอย่างรอบคอบ อีกทั้งการพิจารณากฎหมายนี้ในสภาฯ ก็ไม่เหนือความคาดหมายว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น จึงเป็นเหตุผลที่ก่อนหน้านี้ต้องเร่งให้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขมาควบคู่กับกฎหมายกัญชา หากยกเลิกประกาศจะส่งผลกระทบต่อคนหลายกลุ่ม ทั้งผู้ต้องขังที่ได้รับการยกโทษจากคดีกัญชา แพทย์แผนปัจจุบันที่นำกัญชามาใช้ ธุรกิจกัญชาในตลาดหลักทรัพย์ และท้ายที่สุดประชาชนเป็นผู้เดือดร้อน
แม้กฎหมายจะไม่ได้รับการพิจารณากฎหมายในสภาฯ นี้ ไม่มีผลอะไร เพราะสามารถใช้ประกาศของกระทรวงสาธารณสุขได้ แต่ทุกอย่างต้องไม่กระทำผิดกฎหมาย
"ทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพียงแต่ไม่ได้เป็นกฎหมายกัญชากัญชงโดยเฉพาะแค่นั้นเอง เห็นมีใครลงนามออกมาต่อต้าน หลายๆ ท่านก็เป็นกรรมการบริษัทสุรา สุรานี้ติดง่ายกว่ากัญชาอีก อันตรายกว่าอีก ก่อให้เกิดความเสียหายเยอะแยะไปหมด ทำไมตรงนั้นไม่เป็นไร มาเบรกกัญชา แต่ไปเป็นกรรมการบริษัทขายเหล้า พี่น้องประชาชนคิดกันเองแล้วกัน มันถึงวุ่นวายไปหมด เพราะคนมัวแต่ให้ค่าสถานะทางสังคม ไปด้อยค่าคนที่ตั้งใจทำงานจริงจัง เพื่อปากท้องประชาชน" นายอนุทิน กล่าว
ส่วนในเชิงการเมืองจะชี้แจงอย่างไร เมื่อมีข้อวิจารณ์ว่าพรรคภูมิใจไทยเร่งหาเสียงด้วยนโยบายกัญชานั้น นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคที่พูดแล้วทำ โดยเฉพาะปัญหาปากท้องของประชาชน ไม่จำเป็นต้องเร่งหาเสียง จึงไม่มีอะไรต้องกังวล
"ดีเสียอีกที่เป็นแบบนี้ พรรคร่วมรัฐบาลไม่สนับสนุนกันเอง ใกล้เลือกตั้งที่จะต้องเกรงใจอะไรกัน ก็จะได้ไม่ต้องเกรงใจ" นายอนุทิน กล่าว
ทั้งนี้ นายอนุทิน ปฏิเสธตอบคำถามว่า มีสัญญาณจะยุบสภาแล้วหรือไม่ โดยกล่าวเพียงว่า ให้ไปถามนายกรัฐมนตรีเอง
ส่วนการพุดคุยกับนายกรัฐมนตรีในช่วงใกล้วันที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยประเด็น 8 ปี การดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ได้เข้าไปพบนายกรัฐมนตรีเพื่อขอพรวันเกิด และยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีกำลังใจดี และไม่ได้พูดถึงความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ได้พูดคุยเรื่องการเมือง แต่เป็นการให้กำลังใจซึ่งกันและกันมากกว่า