นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงถึงผลเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ร้อยเอ็ด ที่นายเศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ ผู้สมัครของพรรค พท.หมายเลข 2 ได้รับความไว้วางใจจากชาวร้อยเอ็ดอย่างท่วมท้น 3 แสนกว่าคะแนน เกิน 50% ของผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งนั้ ผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นสะท้อนว่า 8 ปีที่ผ่านมาเป็นวิกฤต เป็นทุกข์ยากความลำบาก แม้จะเป็นการเลือกตั้งนายก อบจ.ร้อยเอ็ด แต่เป็นช่องทางออกจากวิกฤต
"พรรคเพื่อไทยกลับมามองตัวเองว่าเป็นสัญญาณว่าพรรคต้องทำงานหนักขึ้นทุกมิติ เอาความเดือดร้อนของประชาชนมาเป็นความเดือดร้อนของพรรค และตอบสนองความต้องการของประชาชน สัญญาณที่เกิดขึ้นบ่งบอกว่าต้องแลนด์สไลด์ ถ้าพี่น้องอยากออกจากวิกฤต อยากได้คุณภาพชีวิตที่ดีให้ลูกหลานมีอนาคต พรรคเพื่อไทยต้องขอฉันทามติจากประชาชนโดยต้องได้คะแนนเกิน 50% ขึ้นไป ถ้าไม่แลนด์สไลด์ เราไม่สามารถหลุดพ้นหรือยกเลิกกลไกของรัฐธรรมนูญ เช่น 250 ส.ว.ที่มีส่วนเลือกนายกฯ ได้ ดังนั้นถ้าไม่แลนด์สไลด์ ประชาชนเลือกรัฐบาลของตัวเองไม่ได้ พี่น้องจะได้นายกฯ และรัฐบาลที่ตนเองไม่ได้เลือก" นพ.ชลน่าน กล่าว
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค กล่าวว่า ชัยชนะของประชาชนผ่านการเลือกตั้ง ตั้งแต่การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. นายก อบจ.กาฬสินธุ์ จนถึงเมื่อวานนี้ที่ร้อยเอ็ด ชี้ให้เห็นว่าประชาชนไม่เอาระบอบเผด็จการแล้ว เป็นสัญญาณที่ดีของพรรคในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ผลการเลือกตั้งเมื่อวานนี้ชี้ให้เห็นชัด 2 เรื่องด้วยกัน คือประชาชนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงด้านการเมือง โดยแสดงออกผ่านการเลือกตั้ง และสังคมไทยมีความคาดหวังว่าอยากได้ผู้นำคนใหม่จากการเลือกตั้ง เพราะ 8 ปีที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าผู้นำที่มาจากระบอบเผด็จการ ผู้นำที่มาจากระบอบสืบทอดอำนาจไม่สามารถแก้ปัญหาของประชาชนได้ วันนี้ประชาชนหมดความอดทนกับผู้นำคนปัจจุบันแล้ว รอเพียงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นใหม่เท่านั้น เพื่อที่จะได้ผู้นำคนใหม่