เพื่อไทยลั่นชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์หวังเข้ามาแก้วิกฤตสร้างรายได้ใหม่ให้ประชาชน

ข่าวการเมือง Sunday October 9, 2022 14:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค และประธานคณะทำงานด้านการขจัดปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน ส.ส. พรรค และประธานคณะทำงานด้านวางระบบเกษตรกรรม นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรค และคณะทำงานด้านยกเครื่องเศรษฐกิจ นางสาว ณหทัย ทิวไผ่งาม กรรมการบริหารพรรค และประธานคณะทำงานด้านการส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันของประเทศและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานคณะทำงานด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม เปิดตัวนโยบายเพื่อไทย เพื่อชัยชนะแบบแลนด์สไลด์ ในงานฟอรั่มนโยบายครั้งที่ 1 ในวันนี้

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า การชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ จะเป็นกุญแจดอกเดียวที่จะช่วยพี่น้องประชาชนให้มีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นและลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง โดยพรรคเพื่อไทยได้เตรียม 3 เสาหลักสู่ชีวิตใหม่ของประชาชนพร้อมแล้วคือ (1) ผู้แทนราษฎรที่เข้าถึงพื้นที่ เข้าใจประชาชน (2) นโยบายที่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาและทำได้จริงตามที่สัญญาไว้ และ (3) ผู้เสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นบุคคลที่มีศักยภาพและความสามารถ ประชาชนสามารถฝากความหวังและมอบความไว้วางใจนำพาประเทศพ้นวิกฤต ซึ่งวันนี้เพื่อไทยจัดงานขึ้นเพื่อเปิดตัวเสาหลักนโยบาย ?ชุดนโยบายชุดเศรษฐกิจ? ภายใต้แนวคิด ?พรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อรายได้ใหม่ของประชาชน? ส่วนนโยบายชุดอื่นๆ จะมีการเปิดตัวในลำดับถัดไป รับรองไม่ให้ประชาชนผิดหวังอย่างแน่นอน

นายแพทย์พรหมินทร์ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายพรรค กล่าวนำว่า ประเทศไทยอยู่ในวิกฤต ประชาชนเป็นทุกข์เพราะรายได้น้อย เป็นหนี้ ไม่มีกำลังซื้อ ร้านค้าขายของไม่ได้ โรงงานผลิตไม่ได้ ไม่จ้างงาน รัฐก็เก็บภาษีไม่ได้ รัฐบาลประยุทธ์แก้หนี้ด้วยการสร้างหนี้ แต่เพื่อไทยคิดต่าง เราจะทำให้ ?เศรษฐกิจดีด้วยรายได้ใหม่? เพื่อไทยจะแก้หนี้ด้วยการสร้างรายได้ และรายได้นั้นจะต้องเป็นรายได้ใหม่ที่เพิ่มขึ้นให้กับคนทุกกลุ่ม ประเทศและประชาชนจะต้องถูกปลดปล่อยศักยภาพที่ซ่อนเร้นอยู่มากมาย เพื่อไทยวางทิศโดยมีเป้าเพื่อกอบกู้สถานการณ์ย่ำแย่ของประเทศไทย ขอให้เชื่อมั่นว่าเพื่อไทยทำได้จริง เพราะเราทำสำเร็จมาแล้วในอดีต ประชาชนไทยจะต้องอยู่ดีกินดีอีกครั้ง

นายวิสุทธิ์ ในฐานะประธานคณะทำงานด้านวางระบบเกษตรกรรม กล่าวนำเสนอนโยบาย ?ผ่าตัดเกษตรกรรม? รดน้ำที่ราก สร้างเงินจากดิน พลิกเปลี่ยนชีวิตเกษตรกรให้หายจนอย่างถาวร ว่า ประเทศไทยติดหล่ม ประเทศไทยติดหล่ม การเกษตรไทยตกหลุม เพราะเกาไม่ถูกที่คัน จึงทำให้เกษตรไทยอยู่ในวงเวียนวัฎจักรแบบเดิมๆ คือเจ็บและจน ดังนั้นการเกษตรจะต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ด้วยหลักการ ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ คือผลิตสิ่งที่ตลาดต้องการ ใช้ความรู้และเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อลดต้นทุนเพิ่มผลผลิต พร้อมหาโอกาสใหม่ๆ เช่น ใช้ความรู้สมัยใหม่เพิ่มผลผลิตจากพืชที่ปลูกอยู่แล้ว อาทิ ข้าว และยาง ผลิต ?พืชอาหารสัตว์? อาทิ ข้าวโพด ถั่วเหลือง เพื่อทดแทนการนำเข้า และขยายการส่งออก ด้วยโครงการโคขุนเงินล้าน

สำหรับการบรรเทาทุกข์ระยะเร่งด่วน นโยบายพักหนี้เกษตรกร พร้อมๆ กับการสร้างรายได้จะถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง อย่างไรก็ตามเราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ด้วยโครงการบำนาญเกษตรกร ซึ่งจะทำเพื่อดูแลเกษตรกรรุ่นบุกเบิกและดึงดูดเกษตรกรรุ่นใหม่ เปลี่ยนเงินให้เปล่าเป็นต้นทุนสร้างชีวิตผลิตรายได้ให้เกษตรไทยไทยอย่างยั่งยืน โดยมีหลักทำงานคือ ดินนำ น้ำดี มีต้นพันธุ์ ยืนยันราคา จัดหาแหล่งทุน สนับสนุนกรรมสิทธิ์ มีเป้าเปลี่ยนผืนแผ่นดินเดิมจากที่เคยสร้างรายได้ 10,000 บาท/ไร่/ปี เพิ่มเป็น 30,000 บาท/ไร่/ปี ประชาชนไทยทุกคน ทุกภาคส่วนได้ประโยชน์

นายเผ่าภูมิ ในฐานะคณะทำงานด้านยกเครื่องเศรษฐกิจ กล่าวนำเสนอนโยบาย ?เขตธุรกิจใหม่? (New Business Zone; NBZ) ดึงเงินนอก ปลุกเงินใน เปลี่ยนเงินที่หลับใหล เป็นเงินที่สร้างเงิน ด้วย "เขตธุรกิจใหม่" 4 แห่ง เชียงใหม่ กรุงเทพ ขอนแก่น และหาดใหญ่ โดยในเขตธุรกิจใหม่นี้ พรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าสร้างกุญแจ 3 ดอก ให้กับประเทศคือ กุญแจดอกที่ 1 กฎหมายธุรกิจชุดใหม่ เพื่อปลดล็อกปัญหาการทำธุรกิจในทุกมิติ รวมถึงดึงการลงทุนจากต่างชาติ เข้าแก้ปัญหาทั้งด้านใบอนุญาต แรงงาน นำเข้าส่งออก และการธุรกรรมระหว่างประเทศ กุญแจดอกที่ 2 สิทธิประโยชน์ใหม่ ภาษีจากกำไร ภาษีเงินได้ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงภาษีนำเข้า จะได้สิทธิประโยชน์ไม่แพ้ที่ใดในโลก กุญแจดอกที่ 3 ระบบนิเวศน์ใหม่ โดยการสร้างสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ระบบการศึกษาและการผลิตคนใหม่ และระบบธนาคารใหม่ เป็นกองหลังเพื่อผลักกองหน้าซึ่งได้แก่ภาคเอกชนให้ขับเคลื่อนได้ โดยกุญแจทั้ง 3 ดอกจะถูกสร้างขึ้นในเขตธุรกิจใหม่ และรายได้ใหม่จะถูกสร้างให้กับประชาชน

นายสุทิน ในฐานะประธานคณะทำงานด้านการขจัดปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ กล่าวนำเสนอนโยบาย ?เงินโอน คนสร้างตัว? (Earned Income Tax; EIT) ว่า พรรคเพื่อไทย ต่อสู้กับ ?ความจน? เพื่อประชาชนมาอย่างยาวนาน และผลงานที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าได้ช่วยลดความยากจนลงได้อย่างต่อเนื่อง เพราะเราเริ่มคิดจากนโยบายที่ทำได้จริง โดย ?เงินโอน คนสร้างตัว? จะทำให้ผู้มีรายได้น้อยเกินกว่าจะดำรงชีพ จะได้รับเงินภาษีแทนการจ่ายเงินภาษี จนกระทั่งมีความมั่นคงและสร้างตัวได้ ส่วนการจัดสรรความช่วยเหลือทางการเงิน จะเน้นไปที่กลุ่มที่มีความจำเป็นมากที่สุด ซึ่งประเด็นสำคัญที่สุดของนโยบายนี้ คือการสร้างแรงจูงใจให้คนทำงานเข้ามาในระบบและมีโอกาสพัฒนาสร้างตัวเองไปด้วย

นางสาวณหทัย ในฐานะประธานคณะทำงานด้านการส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันของประเทศและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ กล่าวนำเสนอนโยบาย ?เรียนรู้มีรายได้ เรียนรู้ง่าย ตลอดชีวิต? (Lifelong Learning Lifelong Earning) ว่าเพื่อไทยจะสร้าง ?แพลตฟอร์ม? จับคู่สมรรถนะของคนเข้ากับงานที่ใช่ เพื่อช่วยให้มีงานทำเร็วที่สุด ตรงกับสมรรถนะของตนเองมากที่สุด และสร้างรายได้ที่ดีที่สุด เป็นการกระจายอำนาจให้ประชาชนได้เข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียม โดยในแพลทฟอร์มนี้ผู้ใช้จะสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ที่หลากหลายได้ตลอดเวลา สะสมเครดิตการเรียน และเทียบคุณวุฒิเพื่อไปต่อยอดการทำงานโดยไม่มีวันหมดอายุ และในภาพกว้าง นอกจากนี้ข้อมูลจากแพลทฟอร์มนี้จะถูกนำมาใช้เพื่อเป็นยุทธศาสตร์ในการสร้าง Big Data พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพื่อให้ประเทศไทยและคนไทยแข่งขันได้ในเวทีโลกอย่างไม่ด้อยกว่าชาติใด

นางสาวแพทองธาร ในฐานะประธานคณะทำงานด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม กล่าวนำเสนอนโยบาย ?1 ครอบครัว 1 ศักยภาพ ซอฟต์พาวเวอร์? (One Family One Soft power; OFOS) ว่าคือการสร้างเงินจากสมองและสองมือ หากเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เราจะทำสิ่งสำคัญ 3 อย่างคือ (1) พัฒนาศักยภาพคนไทยผ่านศูนย์บ่มเพาะที่อยู่ในชุมชน ทักษะต่างๆ เช่น อาหาร แฟชั่น กีฬา การเขียนโปรแกรม และความสามารถทาง E-sport จะถูกถ่ายทอดฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมส่งเสริมผลักดันให้ความสามารถนั้นออกไปสู่เวทีใหญ่จนก้าวไปถึงระดับนานาชาติ (2) สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ โดยแก้กฎหมายที่ปิดกั้นโอกาส สร้างพื้นที่สร้างสรรค์ให้มากพอ และเชื่อมภาคเอกชนเข้ากับภาคประชาชน หรือคือการเชื่อมผู้ผลิตเข้ากับแหล่งวัตถุดิบ จะทำให้แก้ปัญหาได้ตรงจุด และ (3) ออกแบบนโยบายต่างประเทศ เน้นการส่งออกสินค้าและบริการทางวัฒนธรรม ใช้การทูตขยายอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ด้วยการเปิดตลาดใหม่ๆ เพราะศักยภาพของทุกคนสามารถสร้างเป็นรายได้อย่างไม่สิ้นสุด

นางสาวแพทองธาร กล่าวปิดท้ายว่า ในสนามการเลือกตั้งครั้งนี้ นโยบายของพรรคเพื่อไทยจะดำเนินการด้วย ?บันได 4 ขั้นเพื่อหมุดหมายชีวิตใหม่ของประชาชน? คือ บันไดขั้นที่ 1 ?เพื่อศักยภาพใหม่? ของประเทศและประชาชนไทย บันไดขั้นที่ 2 ?เพื่อรายได้ใหม่? แก้หนี้สินด้วยการเพิ่มพูนรายได้ทวีคูณ ให้เศรษฐกิจประเทศไทย เป็นเศรษฐกิจใหม่ที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง บันไดขั้นที่ 3 ?เพื่อสังคมใหม่? ความมั่นคงคือความปลอดภัยของทุกคนอย่างเท่าเทียม และบันไดขั้นที่ 4 ?เพื่อการเมืองใหม่? ที่หลักนิติรัฐนิติธรรมเข้มแข็ง รัฐธรรมนูญต้องมีที่มาจากประชาชน วุฒิสภาต้องไม่มีอำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรี และรัฐของราชการต้องถูกเปลี่ยนเป็นรัฐของประชาชนอย่างแท้จริง

"เวลาของประยุทธ์หมดแล้ว ตอนนี้ถึงเวลานับถอยหลังสู่ความเข้มแข็งของประชาชน และความมั่นคงทางเศรษฐกิจภายใต้การนำของรัฐบาลเพื่อไทย เพื่อศักยภาพใหม่ เพื่อรายได้ใหม่ เพื่อสังคมใหม่ เพื่อการเมืองใหม่ คือบันได 4 ขั้นสู่แลนด์สไลด์ "พรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน" นางสาวแพทองธาร กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ