นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ ผู้ช่วยเลขานุการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร, นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล, นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ, นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ และนายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังปลวงชนไทย ร่วมกันแถลงผลประชุมวิปพรรคร่วมฝ่ายค้าน
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติ 4 เรื่อง คือ 1.เรื่องความก้าวหน้าของการดำเนินคดีนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องที่เป็นผลพวงอภิปรายไม่ไว้วางใจ 2.การเสนอเปิดประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญ เรื่องด่วนเหตุกราดยิงหนองบัวลำภูที่มีการละเมิดสิทธิเด็ก
เนื่องจากมองว่าขณะนี้ มีประกาศราชกิจจานุเบกษาเรียกประชุมสภาฯ สมัยสามัญ ในวันที่ 1 พ.ย.65 ดังนั้นการจะขอเปิดประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญจึงเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก และช้ากว่า จึงขอไม่ดำเนินการยื่นเปิดสภาสมัยวิสามัญ แต่จะยื่นเป็นญัตติด่วนด้วยวาจาแทนในวันที่ 3 พ.ย.นี้ ซึ่งเป็นการประชุมวันแรก
"พรรคร่วมฝ่ายค้าน มีมติว่า เหตุกราดยิงฯ และน้ำท่วมใหญ่ในประเทศ จะยื่นเป็นญัตติด่วนด้วยวาจา ในวันที่ 3 พ.ย.นี้ ซึ่งเป็นการประชุมวันแรก เพื่อให้สภาฯร่วมกันพิจารณาพูดคุยประเด็นปัญหา รายละเอียด และสาเหตุ และข้อเสนอไปยังรัฐบาล หาทางออกร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาประเทศ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องยาเสพติดและอาวุธปืน และสภาพทางจิตใจ รวมทั้งปัญหาน้ำท่วม เราจะประสานงานวิปรัฐบาลเข้าสภาฯ มั่นใจว่าวิปรัฐบาลไม่ปฏิเสธ เชื่อว่าราบรื่นจากเสียงข้างมาก" นพ.ชลน่าน ระบุ
ส่วนการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติมาตรา 152 นั้น เนื่องจากฝ่ายค้านได้มีการยื่นญัตติด่วนด้วยวาจาแล้ว เช่น ปัญหายาเสพติด ภัยแล้ง และอุทกภัย จึงขอประเมินสถานการณ์ก่อน และจะยื่นขอเปิดอภิปรายฯ อีกทีหลังจากประชุมเอเปก แต่ต้องคำนึงโอกาสอยู่รอดของสภาฯ ว่าจะมีการยุบสภาหรือไม่ หากมีโอกาสยุบสภาฯ จริง จะเร่งยื่นญัตติดังกล่าวทันที
ด้านนายสุขุมพงศ์ กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีรวมทั้งหมด 16 เรื่อง ยื่นต่อองค์กรอิสระและศาลไปแล้ว 12 เรื่อง และเหลืออีก 4 เรื่องที่กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ล่าสุดได้มีการเพิ่มประเด็นอีก 3 เรื่อง รวมทั้งหมด 19 เรื่อง เช่น ทุจริตถุงมือยาง การใช้งบกลางของนายกฯ ทุจริตโครงการบ้านเคหะสุขประชา และที่ดินเขากระโดง
นายสุขุมพงศ์ กล่าวว่า จะยื่นในประเด็นปลดล็อกกัญชาเพิ่มเติมต่อศาลปกครองให้คุ้มครองชั่วคราว เนื่องจากเป็นการประกาศใช้กฎหมายมิชอบ และจะยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อยุบพรรคการเมืองที่สนับสนุนนโยบายดังกล่าว โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย (ภท.) นอกจากนี้ จะมีการตั้งกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบคู่ขนานกรณีนาฬิกาเพื่อน และจีที 200 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยังไม่ชี้มูลความผิด เพราะอาจเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
"ถึงแม้ว่าจะครบ 4 ปี เราได้อภิปรายไม่ไว้วางใจมา 4 รอบแล้ว ผลสรุปทั้งหลาย เมื่อเขายังดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปี มติของสภาไม่สามารถที่จะพ้นตำแหน่งไปได้ แต่ผลการกระทำความผิด อะไรที่เป็นความผิดต่อกฎหมายก็ดี ความผิดต่อจริยธรรมก็ดี เป็นเหตุยุบพรรคก็ดี พรรคร่วมฝ่ายค้านต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด จนสิ้นกระแสความ" นายสุขุมพงศ์ กล่าว