"สมชาย"ไม่หวั่น สสร.50-พันธมิตรฯล่ารายชื่อยื่นถอดถอนส.ส.แก้รัฐธรรมนูญ

ข่าวการเมือง Wednesday April 2, 2008 16:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายสมชาย วงศสวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน(พปช.)กล่าวว่า ไม่รู้สึกกังวลต่อกรณีชมรม สสร.50 และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะล่ารายชื่อยื่นถอดถอน ส.ส.ที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ 50 เนื่องจากเห็นว่าในรัฐธรรมนูญอนุญาตให้มีการแก้ไขได้ อีกทั้งยังเขียนไว้ชัดเจนว่าใครที่จะแก้ไข
ทั้งนี้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นนักกฎหมาย นักวิชาการ ก็สามารถแสดงความคิดเห็นได้ แต่สุดท้ายเป็นเรื่องที่สภาจะพิจารณา
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายมองว่าพรรคร่วมรัฐบาลมีเสียงจำนวนมากในสภาย่อมสามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ตามต้องการนั้น นายสมชาย กล่าวว่า ระบบของสภาต้องยอมรับฟังเสียงข้างมาก และทุกคนสามารถแสดงความเห็นได้ ซึ่งในที่สุดประชาชนจะเป็นผู้รับฟังและตัดสินว่าเหตุผลของฝ่ายใดมีน้ำหนัก
นายสมชาย ยังกล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายมองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับส.ส.ว่า ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละฝ่ายว่าจะมองว่าอย่างไรมากกว่า
"ต่างคนก็ต่างความคิด คนที่จะมาแก้ก็บอกว่าเพื่อให้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยที่เป็นสากลมากยิ่งขึ้น ขณะที่อีกฝ่ายก็บอกว่าไม่ใช่ แต่คนไทย 63 ล้านคนก็คงจะรอฟังเหตุผลของแต่ละฝ่ายก่อนที่จะพิจารณาว่าเป็นอย่างไร" นายสมชาย กล่าว
ด้านนายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ขณะนี้ได้รวบรวมรายชื่อ ส.ส.ในพรรคกว่า 100 คน เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญเรียบร้อยแล้ว ซึ่งการที่ชมรม สสร.50 ระบุว่าผู้ที่เข้าชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญหวังประโยชน์เพื่อตัวเองและอาจเข้าข่ายผิดมาตรา 122 นั้น ยืนยันว่า พวกตนจะไม่ถอนรายชื่อ เพราะมั่นใจว่าเป็นการเข้าชื่อแก้รัฐธรรมนูญตามช่องทางและไม่ได้ทำเพื่อส่วนตัว แต่ทำเพื่อให้พรรคการเมืองมีความเข้มแข็งไม่อ่อนแอ และไม่ใช่การทำเพื่อหนีคดียุบพรรค
"พรรคการเมืองไม่ใช่สมบัติของบุคคล แต่เป็นสมบัติของชาวบ้าน ดังนั้นการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้จึงทำเพื่อส่วนรวม ไม่ได้หนีคดียุบพรรค เพียงแต่ต้องการให้ศาล หรือ กกต.ได้ใช้ดุลพินิจในการวินิจฉัยว่าจะส่งฟ้องยุบพรรคหรือไม่" นายสงวน กล่าว
พร้อมฝากถามกลับไปยังนายเสรี สุวรรณภานนท์ และ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีต สสร.ว่า การที่รัฐธรรมนูญ 50 กำหนดในบทเฉพาะกาลให้ต่ออายุองค์กรอิสระอย่างคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ออกไปอีกนั้นจะถือว่าเป็นการละเมิดหรือไม่

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ