นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีมีการปล่อยกระแสข่าวการยุบสภาในวันที่ 24 ธ.ค.65 ออกมาในช่วงก่อนที่จะมีประชุมเอเปคในช่วงกลางเดือนนี้ว่า ไม่เป็นเรื่องที่น่ากังวล เพราะมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาทางการเมือง และไม่ได้รู้สึกงง เนื่องจากการปล่อยข่าวลักษณะนี้มักจะไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เป็การประโคมข่าว ถือเป็นเรื่องปกติทางการเมือง
นายอนุชา มองว่า ไม่มีโอกาสที่การยุบสภาจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว และไม่เคยได้ยิน หรือมีข้อสงสัยหรือระแวงว่าจะเกิดการยุบสภาแม้แต่น้อย โดยเท่าที่ได้รับฟังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ยืนยันจะทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ
ส่วนในช่วงปลายปีนี้รัฐบาลจะมีนโยบายใหม่ๆ ออกมาอีกหรือไม่ คงต้องรอทีมงานของรัฐบาลอีกครั้ง
นายอนุชา กล่าวว่า ด้านนโยบายใหม่ของพรรค พปชร.ก็จะออกมาในช่วงปลายปีนี้เช่นกัน โดยขณะนี้ทางผู้บริหารพรรคกำลังดำเนินการตามกรอบระยะเวลาที่คณะทำงานกำหนดไว้ จึงไม่มีเรื่องใดที่น่าวิตกกังวล และยังมั่นใจในนโยบายของพรรคฯ
ขณะที่ปัญหาเรื่องเงินบริจาคเข้าพรรคที่ถูกยื่นเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบเงินบริจาคของนักธุรกิจจีนที่มีชื่อเข้าไปปพัวพันกับธุรกิจการพนันผิดกฏหมายนั้น เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อพรรคฯ เพราะเป็นเรื่องธรรมดาที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกพรรคที่คงไม่สามารถตรวจสอบเงินบริจาคได้ว่ามีที่มาที่ไปเป็นอย่างไร แต่มั่นใจว่าขั้นตอนการรับบริจาคถูกต้องตามกฎหมาย จึงไม่น่าหนักใจ
ทั้งนี้ เชื่อว่าพรรคพลังประชารัฐจะไม่เกิดอุบัติเหตุระหว่างทาง เพราะยังไม่มีสิ่งบ่งชี้ใดๆ ว่าจะมายุบพรรคได้ โดยเฉพาะเรื่องเงินบริจาค ก็เป็นเรื่องที่ไกลมาก เพราะเท่าที่ทราบก็เป็นเหมือนกันทุกพรรค จึงไม่ได้มีประเด็นเคลือบแคลง ภาพรวมการทำงานของพรรค พปชร.ตลอด 4 ปีส่วนตัวยังมั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งใหม่นี้จะได้รับคะแนนนิยมและมี ส.ส.เพิ่มขึ้น เพราะยังเหลือเวลาในการหาเสียง
นายอนุชา กล่าวอีกว่า ไม่หวั่นไหวว่ากระแสของพรรคพลังประชารัฐจะลดลง เพราะเรื่องการเมืองมีหลากหลายมิติ หลากหลายความคิด และหลากหลายความเห็น ส่วนจะมีมากน้อยอย่างไรก็ต้องนำมาพิจารณาทั้งหมด พร้อมปฏิเสธยังไม่รู้เรื่องแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของ พปชร. ยังเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือไม่
อีกทั้งยังไม่ได้ประเมินว่าหาก พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคฯ อาจจะย้ายไปอยู่พรรคอื่นจะส่งผลกระทบต่อ พปชร.หรือไม่