นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้สดถามรัฐบาลถึงเป้าหมายในการออกกฎกระทรวงอนุญาตให้ต่างชาติถือครองที่ดินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากการดำเนินมาตรการนี้ในอดีต มีต่างชาติเข้าร่วมโครงการเพียง 8 ราย
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ชี้แจงว่า จากการที่รัฐบาลกำหนดแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ๆ จึงจำเป็นต้องมีมาตรการจูงใจต่างชาติที่มีศักยภาพ โดยการให้สิทธิถือครองที่ดิน 1 ไร่นั้น เป็นมาตรการเสริมที่เพิ่มเติมจากสิทธิในการถือครองอสังหาริมทรัพย์เดิมที่มีการอนุญาตไว้ ซึ่งมีรายละเอียดที่กำหนดเงื่อนไขไว้รัดกุมรอบคอบ
"เป็นเงื่อนไขที่เสริมขึ้นมาจากเดิมที่สามารถซื้อหรือเช่า แต่กำหนดรายละเอียดไว้ชัดเจน หากทำผิดเงื่อนไข ก็สามารถเพิกถอนสิทธิได้" นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว
นายพิธา ถามถึงมาตรการป้องกันผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว โดยเฉพาะการป้องกันปัญหาการฟอกเงิน โดยนายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ไม่สามารถระบุเป้าหมายได้ว่าจะมีผู้สนใจยื่นขอวีซ่าประเภท Long-Term Resident Visa หรือ LTR Visa แต่ผู้ที่ได้รับสิทธิถือครองที่ดินนั้น จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข หากทำอะไรที่ขัดต่อเงื่อนไขก็จะถูกเพิกถอนสิทธิทันที
"มาตรการนี้เป็นเรื่อง Human Capital ที่ต้องการพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ๆ" นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว
นายพิธา ถามถึงการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำกรณีที่มีคนไทยยังไม่มีที่ดินทำกินหรือที่อยู่อาศัย และไม่เชื่อว่ามาตรการนี้จะกระตุ้นการลงทุนได้จริง เพราะต่างชาติจะตัดสินใจเข้ามาลงทุนคงไม่ได้คำนึงมาตรการนี้ และตนขอคัดค้านเรื่องนี้
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า หากยังไม่เชื่อมั่นในประเทศไทย และมองว่าวิธีการนี้เป็นวิธีโบราณ ต่างชาติไม่ได้อยากมาอยู่เมืองไทย น่าจะเป็นวิธีการมองประเทศไทยในเชิงลบมากเกินไป แม้จะตั้งเป้าหมายให้มีต่างชาติมายื่นขอ LTR Visa ไว้ 1 ล้านคน แต่ไม่ได้หมายความว่าต่างชาติจะมาขอสิทธิถือครอง 1 ล้านไร่
"กรุณาเปรียบเทียบว่าเมืองไทยน่าอยู่อย่างไร แต่ไม่น่าเชื่อว่า ยังมีคนตั้งข้อครหาแบบนี้" นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว