นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวหาว่ารับงานใครให้ออกมาคัดค้านร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ว่า รู้สึกแปลกใจกับท่าทีของนายอนุทินมาก แต่ขอย้ำจุดยืนของพรรค ปชป.ว่ากัญชามีทั้งประโยชน์และโทษมหันต์ที่มีการนำไปใช้สันทนาการ เพราะขณะนี้สถานการณ์กัญชากลายเป็นกัญชาเสรีสุดขั้ว การปลดล็อคกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดประเภท 5 โดยไม่มีกฎหมายบังคับ จึงขอเรียกร้องให้มีกฎหมายที่ดีรองรับ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์เท่านั้น แต่ปัญหาคือกฎหมายที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) จัดทำอยู่ไม่เน้นเรื่องประโยชน์ทางการแพทย์ แต่เปิดช่องให้นำไปใช้เรื่องสันทนาการ และยังสามารถบิดเบือนไปใช้ในด้านอื่นๆ ได้อีกมาก
สถานการณ์ขณะนี้ นายอนุทินรู้ดีและต้องยอมรับว่ากัญชาเสรีสุดขั้วไปแล้ว เพราะสามารถซื้อได้ง่าย เราจึงเสนอให้นำกัญชากลับไปอยู่ในบัญชียาเสพติดดีหรือไม่ ในฐานะ ส.ส.เรามีหน้าที่ทำกฎหมาย และทำหน้าที่แทนประชาชนในการติดตามนโยบาย หากเห็นสิ่งใดไม่ถูกต้องก็ต้องช่วยกันเตือน เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด
"ที่บอกว่ารับงาน รับเงินใครมาล้มกฎหมายกัญชา ก็ต้องบอกว่ารับงานจากประชาชนที่มีลูกหลานติดกัญชา ต้องยอมรับว่ากฎหมายที่อยู่ในสภาขณะนี้ มีโอกาสที่จะพิจารณาไม่ทันในยุครัฐบาลนี้ หากกฎหมายกัญชาผ่านในสัปดาห์ โดยรัฐธรรมนูญก็ต้องส่งไปให้วุฒิสภาพิจารณา ซึ่งมีเวลาพิจารณาถึง 60 วัน หรือถึงช่วงเดือนธันวาคม กว่าจะกลับมาสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง ก็จะตกในช่วงเดือนมกราคม 2566 ถ้าเกิดกรณีวุฒิสภาแก้ไข ก็จะต้องตั้งกรรมาธิการร่วม หากไม่ทันอายุสภา มีทางเดียวคือการทำกฎหมายให้ดีที่สุด และปิดสุญญากาศการใช้กัญชา ขอให้นายอนุทินไปถามคนในกระทรวงสาธารณสุขดูว่า ที่กำลังหนักใจกับผู้ป่วยจิตเวชที่ติดยาเสพติดมีความรู้สึกอย่างไร เราอย่าทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องการเมืองแล้วทะเลาะกันเลย เมื่อเห็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ผมจึงต้องพูด" นายสาทิตย์ กล่าว
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้า นโยบายจะเป็นเรื่องใหญ่และเป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรคที่จะขับเคลื่อน หากร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ไม่เสร็จ ก็อาจจะนำไปสู่การจัดทำนโยบายที่จะใช้ในการเลือกตั้ง แต่พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่ากัญชาต้องใช้ในทางการแพทย์เท่านั้น ไม่เห็นด้วยกับกัญชาเสรีสุดขั้ว
ส่วนที่พรรคภูมิใจไทยมองว่าพรรคประชาธิปัตย์พยายามทำประเด็นกัญชาให้เป็นปัญหาทางการเมืองนั้น นายสาทิตย์ กล่าวว่า กัญชามีปัญหาในตัวอยู่แล้ว เพราะมีทั้งประโยชน์และโทษ ขณะนี้เรากำลังหยิบปัญหาที่ไม่ถูกพูดถึงขึ้นมา ต้องใจกว้างและยอมรับว่าสิ่งที่ทำอยู่มีปัญหาและต้องหาทางแก้ไข อย่าไปกลบเกลื่อนเรื่องนี้ให้กลายเป็นความขัดแย้งทางการเมือง เพราะคนที่ต้องรับกรรมคือลูกหลานและประชาชน
การที่พรรคภูมิใจไทยยืนยันว่าไม่ใช่กัญชาเสรี แต่เป็นกัญชาเพื่อทางการแพทย์นั้น นายสาทิตย์ กล่าวว่า เห็นด้วยหากใช้กัญชาเพื่อทางการแพทย์ แต่ขณะนี้ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะกฎกระทรวงสาธารณสุขคุมไม่อยู่ และตำรวจจับไม่ได้ ขายกัญชากันเกลื่อนเมือง หาซื้อง่ายตามข้างถนนโดยไม่ต้องใช้บัตรประชาชน
ส่วนที่นายอนุทินระบุว่าหลังเลือกตั้งครั้งหน้า อาจมีการเปลี่ยนขั้ว ไม่ขอจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ไกลไปที่จะพูดถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า ขณะนี้ขอมองปัญหาเฉพาะหน้าก่อน ส่วนที่บอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคารพมติคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) นั้น นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล บอกว่ามติวิปรัฐบาลในเรื่องนี้ยังไม่ชัดเจน เพราะภายในวิปรัฐบาลก็ยังมีความเห็นไม่ตรงกัน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา จึงขอว่าอย่าหยิบความเห็นไม่ตรงกันนี้ในสภาไปขยายผลให้เป็นความขัดแย้งทางการเมือง เพราะกัญชาเป็นปัญหาต่อสังคม และเรื่องความขัดแย้งไม่ถูกว่าเป็นเรื่องน่ากังวล
สำหรับเรื่องมารยาททางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ นายสาทิตย์ กล่าวว่า มารยาททางการเมืองของพรรคร่วมรัฐบาลคือการเดินตามแนวทางที่ได้ร่วมตกลงกันไว้ แต่หากเห็นสิ่งไม่ถูกต้อง เป็นโทษ และไม่เป็นประโยชน์กับประชาชน ก็ต้องเตือนและต้องฟังกันบ้าง