นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้พ้นมือรัฐบาล พ้นมือพรรคภูมิใจไทยไปแล้ว เป็นเรื่องของคณะกรรมาธิการฯ เมื่อกฎหมายเข้าสู่ที่ประชุมสภาก็ต้องฟังความเห็น ซึ่งทุกคนมีเอกสิทธิ์ในการตัดสินใจลงคะแนน ความสำคัญของกฎหมาย คือ เป็นกฎหมายเฉพาะเพื่อควบคุมการใช้กัญชา ไม่ใช่ยาเสพติด แต่ต้องมีกฎหมายมาควบคุม เพื่อลดความกังวลของสังคม
ส่วนปัญหาความขัดแย้งกับพรรคประชาธิปัตย์นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้ได้เจอนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ซึ่งได้เข้าไปทักทายตามปกติ
"เจอแล้ว ไหว้ท่านแล้วก็ยิ้ม ทำเหมือนที่พูดไว้ตอนเช้า ความเห็นต่างมันเกิดขึ้นได้ แต่ขอให้ฟังคำชี้แจงก่อน คนที่จะพูดเรื่องนี้ได้ดี คือคณะกรรมาธิการที่ร่วมกันร่าง ถ้าฟังแล้วเข้าท่า ก็โหวตสนับสนุน" นายอนุทิน กล่าว
พรรคภูมิใจไทยได้ผลักดันให้มีการปลดล็อกกัญชาออกมาจากยาเสพติดแล้ว เว้นสารสกัดที่มีค่า THC เกิน 0.2% ส่วนกระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศมาดูแลการใช้ในระดับหนึ่ง ทั้งการให้กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม และประกาศกรมอนามัยไม่ให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ได้ใช้กัญชา แต่ก็ต้องมีกฎหมายเฉพาะเจาะจง เพื่อให้การควบคุมทำได้เต็มที่
ขณะที่นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง (ฉบับที่..) พ.ศ. ? กล่าวว่า ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพรรคการเมืองแล้ว เพราะร่าง พ.ร.บ.เป็นร่างของสภาผู้แทนราษฎรที่ตั้ง กมธ.มาจากทุกพรรค ในสัดส่วนของภูมิใจไทยมีอยู่ 2 คนเท่านั้นที่เข้าไปทำงาน นอกนั้นก็มีทั้งตัวแทนจากพรรคฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ ภาคประชาชน เรียกว่าเป็นร่างฯ ของสภา
"ข้อเป็นห่วงที่เพื่อไทยกับประชาธิปัตย์เสนอมา ก็มีอยู่ในร่างฯ แล้ว สัปดาห์นี้ สัปดาห์หน้า น่าจะได้พิจารณา จะโหวตแบบไหน เป็นสิทธิ์ของท่าน มีความพยายามบอกว่าร่างฯ นี้ไม่ใช่ของรัฐบาล จะทวนให้ฟังว่าหลังจาก ส.ส.และ ส.ว.ปลดล็อกกัญชา เอาออกมาจากยาเสพติด ตามกฎหมายยาเสพติดมีผลบังคับใช้ปลายปี 64 คณะกรรมการ ปปส.มีความเห็นว่าจะต้องออกกฎหมายเฉพาะเรื่องกัญชาเพื่อใช้ประโยชน์ให้เกิดความปลอดภัยกับสังคม มอบให้ภูมิใจไทยเสนอ เพราะเรามีร่างฯ อยู่แล้ว เนื่องจากถ้ารอร่างอื่นจะช้า ก็ต้องบอกว่านี่คือร่างของรัฐบาล ก็เห็นตรงกัน" นายศุภชัย กล่าว
นายศุภชัย กล่าวว่า เมื่อเข้าสู่ที่ประชุม กมธ.ก็ปรับเพิ่ม มี กมธ.คอยพิจารณาเป็น 95 มาตรา เรื่องสังคม เยาวชนที่ทุกคนเป็นห่วง ตัวแทนของพรรคประชาธิปัตย์ยังเสนอให้ใช้เพื่อนันทนาการในบางพื้นที่เลย แต่ทาง กมธ.ไม่เอาด้วย แต่ความจริงตรงนี้ถูกบิดเบือนไป ต้องเรียนว่ากฎหมายฉบับนี้มีความครอบคลุม ครบถ้วนทุกประการ ถ้าพิจารณาแล้วเสร็จ สภาไม่รับแล้วปล่อยให้ร่างฯ ตกไปก็เป็นสิทธิของท่าน ต่อให้วิปรัฐบาลมีมติแล้วท่านไม่ปฏิบัติตาม ก็ตามแต่ใจท่าน
"วันนี้มันมีความจำเป็นที่ต้องมีกฎหมายตัวนี้มาควบคุม เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการบังคับใช้ กฎหมายนี้เป็นร่างกฎหมายที่สำคัญมาก เพราะอย่าลืมว่า เราปลดล็อกกันมาตั้งแต่ธันวาคมปีที่แล้ว ในประมวลกฎหมายยาเสพติด มันจะสามารถสมบูรณ์ได้เมื่อมีกฎหมายตัวนี้มารองรับ ดังนั้นท่านต้องตอบสังคมให้ได้ว่า ทำไมไม่รับ เพราะถ้าท่านไม่รับ มันก็เสี่ยงจะเกิดปัญหาเรื่องการใช้กัญชา เนื่องจากจากตัดสินใจของพวกท่าน แล้วนี่มันกฎหมายสำคัญอย่างที่กล่าว ถ้าไม่ผ่าน มันก็อาจต้องยุบสภา หรือต้องลาออก" นายศุภชัย กล่าว
นายศุภชัย กล่าวว่า เรื่องเอากลับไปเป็นยาเสพติด ขอให้ดูท่าทีของทั่วโลก องค์การสหประชาชาติ (UN) จะปลดกัญชาออกจากยาเสพติดแล้ว ส่วนในสหรัฐฯ ประมาณ 45 รัฐ ปลดล็อกแล้ว แคนาดาปลดล็อกแล้ว อินโดนีเซีย มาเลเซีย ก็จะปลดล็อก เพราะเขาเห็นคุณค่า กัญชาในประเทศไทยมีใช้กันอยู่แล้ว ใช้กันอย่างแพร่หลาย เราเลยต้องเปลี่ยนมุมมองเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างจริงจัง จะมาให้เป็นยาเสพติด แล้วคนที่ปลูกไปแล้ว คนที่ลงทุนเป็นพืชเศรษฐกิจไปแล้วมีเป็นล้านคนก็ต้องติดคุกหมด อย่าลืมว่า ธุรกิจกัญชาทั้งโลกมูลค่าสูงถึง 5 แสนล้านบาท นี่คือโอกาสของคนไทยด้วยกับ ร่าง พ.ร.บ. เราไม่เคยบอกไปนันทนาการ แล้วใครให้เยาวชนมาเสพ กฎหมายฉบับนี้ติดคุกมีโทษหนัก
"เคยคุยกับ ส.ว.แล้ว ท่านไม่มีปัญหา และจริงๆ เรื่องนี้ มันไม่มีความซับซ้อน เพราะถ้าไม่พอใจ ไม่สบายใจ กมธ.ก็ให้แก้ กฎหมายตัวนี้ ไปตามกระบวนการสภา เราเอาเรื่องของสุรา ยาสูบ กระท่อม มาประมวลใช้ร่วมกัน จาก 45 มาตรา ก็เลยงอกเป็น 95 มาตรา เพราะเราต้องทำให้สมบูรณ์ ซึ่ง ท่าน ส.ส.ท่านอภิปรายได้เลย แต่ขอให้ฟังกันบ้าง" นายศุภชัย กล่าว