นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงทิศทางการเมืองสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า น้ำหนักที่สำคัญในการชี้ชะตาการเมืองไทยยังอยู่ที่ 3 ป. ถ้าทั้ง 3 คนยังผนึกกำลังกันแน่นได้ โอกาสที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะไปจับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยก็คงเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าทั้ง 3 คนแตกกัน อะไรก็เกิดขึ้นได้ในการเมืองไทย
นพ.ระวี มองว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตัดสินใจเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ โดยอาจจะเป็นการเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี 2 ปีแรก และให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นอีก 2 ปีหลัง ถ้าเป็นแนวทางนี้อาจจะยังมีอำนาจที่อาจจะรวมกันแล้วชนะพรรคเพื่อไทยได้ในการจับมือตั้งรัฐบาล
แต่หากพล.อ.ประยุทธ์ จะเข้าร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ นพ.ระวี กล่าวว่า 3 ป.ก็สูญพันธุ์ แต่พรรครวมไทยสร้างชาติอาจได้ ส.ส.สัก 50 คน เพราะเชื่อว่า ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐจะไหลมาอยู่พรรคนี้ ซึ่งจะทำให้ผลการเลือกตั้งของทั้งพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ ไม่ประสบความสำเร็จ ถึงสุดท้ายอาจจะกลับมาจับมือกันได้ แต่ก็แพ้พรรคเพื่อไทยแน่นอน
"ยังเชื่อว่าจะมีการยุบสภาหลังเดือน ก.พ. เพราะรัฐบาลยังต้องรอเวลาเพื่อจะแก้สถานการณ์ และต้องรอให้ ส.ส.ได้ย้ายพรรคให้สะดวก ก็จะต้องยุบสภา เพราะจะสามารถย้ายพรรคได้ใน 30 วัน กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ไม่สามารถตกลงกันได้ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องไปอยู่อีกพรรคหนึ่ง ก็จะต้องให้เวลา ส.ส.ได้ย้ายพรรคก่อน วันนี้ถ้าทั้ง 3 คนยังไม่สามารถจับมือกันให้แน่นได้ อำนาจทางการเมืองในหมู่ทหาร ตำรวจ จะลดลงทั้งหมด ข้าราชการก็จะรอแล้วว่านายใหม่จะเป็นใคร ถ้าทั้ง 2 บิ๊กยังตกลงกันไม่ได้ ผมพูดได้คำเดียวว่า 3 ป.สูญพันธุ์" นพ.ระวี กล่าว