ศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เผยบุคคลที่คนภาคตะวันออกจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 25.09 ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธาร (อุ๊งอิ๊งค์) ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) เพราะต้องการให้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ชื่นชอบนโยบายของพรรคเพื่อไทย ขณะที่บางส่วนระบุว่า ชื่นชอบผลงานของตระกูลชินวัตร อันดับ 2 ร้อยละ 16.64 ระบุว่าเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ มีวิสัยทัศน์ ชื่นชอบนโยบายของพรรคก้าวไกล ขณะที่บางส่วนระบุว่า ชื่นชอบอุดมการณ์ของพรรคก้าวไกล อันดับ 3 ร้อยละ 13.64 ระบุว่าเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะเป็นคนซื่อสัตย์สุจริต ต้องการให้บริหารประเทศอย่างต่อเนื่อง และมีประสบการณ์ด้านการบริหาร อันดับ 4 ร้อยละ 13.09 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 5 ร้อยละ 8.50 ระบุว่าเป็น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย) เพราะเป็นคนตรงไปตรงมา มีความซื่อสัตย์สุจริต และชื่นชอบวิธีการทำงาน
อันดับ 6 ร้อยละ 7.25 ระบุว่าเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย) เพราะเป็นคนมีประสบการณ์ด้านการบริหาร ชื่นชอบผลงานในอดีตที่ผ่านมา และต้องการเปิดโอกาสให้ผู้หญิงเข้ามาบริหารประเทศ อันดับ 7 ร้อยละ 2.80 ระบุว่าเป็น นายกรณ์ จาติกวณิช (พรรคชาติพัฒนากล้า) เพราะเป็นคนมีความรู้ด้านเศรษฐกิจ และมีประสบการณ์ด้านการบริหาร อันดับ 8 ร้อยละ 2.35 ระบุว่าเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย) เพราะเป็นคนพูดจริงทำจริง และชื่นชอบนโยบายของพรรคภูมิใจไทย อันดับ 9 ร้อยละ 1.60 ระบุว่าเป็น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (พรรคประชาธิปัตย์) เพราะมีประสบการณ์ด้านการบริหาร และชื่นชอบพรรคประชาธิปัตย์ และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว (พรรคเพื่อไทย) เพราะเป็นคนที่พูดจริงทำจริง มีประสบการณ์ด้านการบริหาร และชื่นชอบพรรคเพื่อไทย ในสัดส่วนที่เท่ากัน อันดับ 10 ร้อยละ 1.55 ระบุว่าเป็น ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เพราะ เป็นคนมีความรู้ความสามารถ ชื่นชอบแนวคิดและวิธีการทำงาน และไม่ตอบ/ไม่สนใจ ในสัดส่วนที่เท่ากัน
อันดับ 11 ร้อยละ 1.40 ระบุว่าเป็น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ (พรรคสร้างอนาคตไทย) เพราะเป็นคนมีความรู้ด้านเศรษฐกิจ มีวิสัยทัศน์ และมีประสบการณ์ด้านการบริหาร และร้อยละ 2.94 ระบุอื่นๆ ได้แก่ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา (พรรคชาติไทยพัฒนา) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ (พรรคไทยศรีวิไลย์) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ (พรรคพลังประชารัฐ) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (พรรคประชาธิปัตย์) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (พรรครวมไทยสร้างชาติ) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม (พรรคไทยภักดี) นายเศรษฐา ทวีสิน นายเทวัญ ลิปตพัลลภ (พรรคชาติพัฒนากล้า) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา (พรรคประชาชาติ) นายชวน หลีกภัย (พรรคประชาธิปัตย์) และนายวิกรม กรมดิษฐ์
เมื่อพิจารณาบุคคลที่คนภาคตะวันออกจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี 5 อันดับแรก จำแนกตามกลุ่มจังหวัดของภาคตะวันออก พบว่า
1.กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 1 อันดับ 1 ร้อยละ 26.27 ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธาร (อุ๊งอิ๊งค์) ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) อันดับ 2 ร้อยละ 19.92 ระบุว่าเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) อันดับ 3 ร้อยละ 13.22 ระบุว่าเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อันดับ 4 ร้อยละ 11.78 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ และอันดับ 5 ร้อยละ 7.97 ระบุว่าเป็น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย)
2.กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 อันดับ 1 ร้อยละ 23.39 ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธาร (อุ๊งอิ๊งค์) ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) อันดับ 2 ร้อยละ 14.98 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 3 ร้อยละ 14.25 ระบุว่าเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อันดับ 4 ร้อยละ 11.94 ระบุว่าเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) และอันดับ 5 ร้อยละ 9.38 ระบุว่าเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย)
สำหรับพรรคการเมืองที่คนภาคตะวันออกมีแนวโน้มจะเลือกให้เป็น ส.ส.แบบแบ่งเขต ในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 33.68 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย อันดับ 2 ร้อยละ 19.29 ระบุว่าเป็น พรรคก้าวไกล อันดับ 3 ร้อยละ 15.79 ระบุว่า ยังไม่ตัดสินใจ อันดับ 4 ร้อยละ 10.14 ระบุว่าเป็น พรรคพลังประชารัฐ อันดับ 5 ร้อยละ 6.95 ระบุว่าเป็น พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 6 ร้อยละ 3.80 ระบุว่าเป็น พรรคเสรีรวมไทย อันดับ 7 ร้อยละ 3.05 ระบุว่าเป็น พรรคภูมิใจไทย อันดับ 8 ร้อยละ 2.75 ระบุว่าเป็น พรรคไทยสร้างไทย อันดับ 9 ร้อยละ 1.10 ระบุว่าเป็น พรรคชาติพัฒนากล้า และร้อยละ 3.45 ระบุอื่นๆ ได้แก่ พรรคสร้างอนาคตไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคกล้า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรคไทยภักดี พรรคไทยศรีวิไลย์ พรรคเพื่อชาติ และพรรคประชาชาติ
เมื่อพิจารณาพรรคการเมืองที่คนภาคตะวันออกมีแนวโน้มจะเลือกให้เป็น ส.ส.แบบแบ่งเขต 5 อันดับแรก จำแนกตามกลุ่มจังหวัดของภาคตะวันออก พบว่า
1.กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 1 อันดับ 1 ร้อยละ 31.78 ระบุว่าเป็นพรรคเพื่อไทย อันดับ 2 ร้อยละ 22.80 ระบุว่าเป็นพรรคก้าวไกล อันดับ 3 ร้อยละ 13.48 ระบุว่ายังไม่ตัดสินใจ อันดับ 4 ร้อยละ 11.44 ระบุว่าเป็นพรรคพลังประชารัฐ และอันดับ 5 ร้อยละ 7.03 ระบุว่าเป็นพรรคประชาธิปัตย์
2.กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 อันดับ 1 ร้อยละ 36.42 ระบุว่าเป็นพรรคเพื่อไทย อันดับ 2 ร้อยละ 19.13 ระบุว่ายังไม่ตัดสินใจ อันดับ 3 ร้อยละ 14.25 ระบุว่าเป็นพรรคก้าวไกล อันดับ 4 ร้อยละ 8.28 ระบุว่าเป็นพรรคพลังประชารัฐ และอันดับ 5 ร้อยละ 6.82 ระบุว่าเป็นพรรคประชาธิปัตย์
ส่วนพรรคการเมืองที่คนภาคตะวันออกมีแนวโน้มจะเลือกให้เป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 33.68 ระบุว่าเป็นพรรคเพื่อไทย อันดับ 2 ร้อยละ 19.09 ระบุว่าเป็นพรรคก้าวไกล อันดับ 3 ร้อยละ 16.24 ระบุว่ายังไม่ตัดสินใจ อันดับ 4 ร้อยละ 10.00 ระบุว่าเป็น พรรคพลังประชารัฐ อันดับ 5 ร้อยละ 7.30 ระบุว่าเป็นพรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 6 ร้อยละ 4.10 ระบุว่าเป็นพรรคเสรีรวมไทย อันดับ 7 ร้อยละ 2.85 ระบุว่าเป็นพรรคไทยสร้างไทย อันดับ 8 ร้อยละ 2.70 ระบุว่าเป็นพรรคภูมิใจไทย อันดับ 9 ร้อยละ 1.00 ระบุว่าเป็นพรรคสร้างอนาคตไทย และร้อยละ 3.04 ระบุอื่นๆ ได้แก่ พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคกล้า พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคเศรษฐกิจใหม่ ไม่ตอบ/ไม่สนใจ พรรคไทยศรีวิไลย์ พรรคไทยภักดี พรรคเพื่อชาติ และพรรคประชาชาติ
โดยพรรคการเมืองที่คนภาคตะวันออกมีแนวโน้มจะเลือกให้เป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 5 อันดับแรก จำแนกตามกลุ่มจังหวัดของภาคตะวันออก พบว่า
1.กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 1 อันดับ 1 ร้อยละ 32.62 ระบุว่าเป็นพรรคเพื่อไทย อันดับ 2 ร้อยละ 21.95 ระบุว่าเป็นพรรคก้าวไกล อันดับ 3 ร้อยละ 14.24 ระบุว่ายังไม่ตัดสินใจ อันดับ 4 ร้อยละ 10.76 ระบุว่าเป็นพรรคพลังประชารัฐ และอันดับ 5 ร้อยละ 7.12 ระบุว่าเป็นพรรคประชาธิปัตย์
2.กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 อันดับ 1 ร้อยละ 35.20 ระบุว่าเป็นพรรคเพื่อไทย อันดับ 2 ร้อยละ 19.12 ระบุว่ายังไม่ตัดสินใจ อันดับ 3 ร้อยละ 14.98 ระบุว่าเป็นพรรคก้าวไกล อันดับ 4 ร้อยละ 8.89 ระบุว่าเป็นพรรคพลังประชารัฐ และอันดับ 5 ร้อยละ 7.55 ระบุว่าเป็นพรรคประชาธิปัตย์
ทั้งนี้ นิด้าโพลได้ทำการสำรวจเรื่อง "คนที่ใช่ พรรคที่ชอบ ของคนภาคตะวันออก" ระหว่างวันที่ 7-10 พ.ย.65 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งในภาคตะวันออก ประกอบด้วย จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว จำนวน 2,001 ราย