นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ในวันพรุ่งนี้ว่า ไม่มีประเด็นการพิจารณากัญชากลับเข้ามาเป็นยาเสพติด เพราะทำไม่ได้ แต่มีวาระที่คล้ายกันคือ กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศควบคุมการใช้ช่อดอกกัญชา และยังไม่ได้ลงในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งกฎหมายนี้ยังไม่มีใครเคยเห็น คณะรัฐมนตรีจึงมอบหมายให้ ป.ป.ส.ไปพิจารณาว่ามีประเด็นอะไรที่ยังมีข้อสงสัย
"ไม่เป็นความจริง ไม่สามารถที่จะดึงกัญชากลับมาเป็นยาเสพติดได้ ป.ป.ส. ก็ไม่สามารถแก้ประกาศกระทรวงสาธารณสุขได้เช่นกัน เพราะไม่ใช่อำนาจของ ป.ป.ส. หากจะดึงกัญชากลับมาพิจารณาเป็นยาเสพติดอีกต้องใช้เวทีอื่น เป็นการให้สาธารณสุขมาอธิบายให้เกิดความเข้าใจ หากไม่มีอะไรติดใจก็สามารถนำส่งให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำลงราชกิจจานุเบกษาได้เลย" นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุ ยังกล่าวถึงการพิจารณากฎหมายลูกว่า รัฐบาลยังไม่ได้ตั้งรับอะไร เป็นภาระความรับผิดชอบของหลายฝ่าย ทั้ง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รัฐบาล รวมถึงสมาชิกรัฐสภาด้วยที่จะต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาถ้าเกิดปัญหา แต่ถ้าไม่มีปัญหาก็แล้วไป แต่ไม่รู้จะออกมาอย่างไร โดยต้องยึดตามหลักรัฐธรรมนูญ
"หากแก้เรื่องบัตรใบเดียวไม่เสร็จ อยู่ที่ศาลว่าจะพิจารณาว่าการแก้แล้วธรรมนูญที่เกี่ยวข้องขัดแย้งกันเองหรือไม่ อยู่ที่ว่าจะแก้โดยวิธีใด หากแก้ไขเป็นการออกพระราชบัญญัติและร่วมมือกัน เร่งพิจารณาก็คงจะได้ เพราะยังมีเวลาอีกกว่า 3 เดือนครึ่ง และเข้า 2 สภาพิจารณาร่วมกันด้วย และหากไม่มีใครดึงให้ชักช้า ก็สามารถไปได้ อย่างไรก็ดี สภาจะหมดวาระในวันที่ 22 มี.ค.66 แต่สามารถขยายเป็นการประชุมสมัยวิสามัญได้" นายวิษณุ กล่าว
สำหรับกำหนดการเลือกตั้งทั่วไป จะเป็นวันที่ 7 พ.ค. 66 หรือไม่นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า กกต.จะเป็นผู้กำหนด หากมีการยุบสภาจะวันไหนก็ได้ เป็นเรื่องที่ กกต.ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า และระหว่างนี้ตนยังไม่ได้หารือกับ กกต. พร้อมหวังว่า จะไม่เกิดสุญญากาศทางการเมือง
"ไม่มีการเตรียมทางหนีทีไล่ไว้ เพราะไม่รู้จะต้องเตรียมอย่างไร เชื่อว่า บางครั้งศาลอาจจะมีทางหนีทีไล่มาให้ด้วย เพราะศาลก็ไม่ต้องการเหนื่อยหลายรอบเหมือนกัน" รองนายกรัฐมนตรี ระบุ
ทั้งนี้ นายวิษณุ ระบุว่า นายกรัฐมนตรีไม่เคยมาปรึกษาเรื่องอนาคตทางการเมือง และไม่ทราบว่าไทม์ไลน์การยุบสภาของนายกรัฐมนตรีจะเป็นเมื่อใด และปฏิเสธที่จะตอบว่ารัฐบาลควรจะยุบสภา หรือควรอยู่ครบวาระ