นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ได้รับหนังสือจากนายยศกร ขุนภักดี ผู้ประสานงานกลุ่มวายเน็ก ที่สนับสนุนให้นำกัญชากลับไปอยู่ในบัญชียาเสพติดจนกว่าจะมีกฎหมาย พร้อมนำบัญชีรายชื่อผู้สนับสนุนกว่า 14,000 รายชื่อ ซึ่งเป็นกลุ่มนักศึกษา แพทย์ อาจารย์ ขอให้ถอนประกาศกระทรวงสาธารณสุขในการควบคุมช่อดอกกัญชา และให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด และใช้ทางการแพทย์เท่านั้น เพราะขั้นตอนการออกกฎหมายต้องใช้ระยะเวลานาน จนทำให้เกิดสูญญากาศ ยืนยันไม่ได้ต่อต้านกัญชาว่าไม่ดี แต่แค่ต้องการให้มีกฎหมายรองรับ
นายชินวรณ์ กล่าวว่า สัปดาห์นี้จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง โดยวิปรัฐบาลขอให้แต่ละฝ่ายไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม เพราะเป็นกฎหมายที่สนใจของประชาชน ด้วยนำความคิดเห็นของแต่ละกลุ่ม ทั้งกลุ่มหนุนและกลุ่มค้านมาพิจารณา เพื่อให้ฝ่ายนิติบัญญัติทำหน้าที่ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในระยะยาว เบื้องต้นในส่วนของวิปรัฐบาลจะให้เป็นความเห็นของแต่ละพรรค
โดยการพิจารณากฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรเป็นอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งรัฐธรรมนูญให้เอกสิทธิ์ ส.ส.ไม่อยู่ภายใต้การครอบงำใดๆ ดังนั้นความเห็นที่แตกต่างกันเป็นเรื่องปกติ
ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่ากฎหมายจะไม่ทันในรัฐบาลชุดนี้ จึงได้ทำหนังสือเวียนพิจารณาอย่างรอบคอบ ถ้าแก้กฎหมายไม่รอบคอบก็จะเกิดปัญหา พร้อมยอมรับว่าห่วงร่าง พ.ร.บ. เงินกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (พ.ร.บ. กยศ.) ที่อยู่ในการพิจารณาของวุฒิสภา อาจจะแก้ไม่ทัน
นายชินวรณ์ ยังกล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยในวันที่ 23 พ.ย และ 30 พ.ย.นี้ โดยยืนยันการพิจารณาของคณะกรรมาธิการพิจารณาตามข้อบังคับและขอบเขตกฎหมาย สำคัญที่สุดคือ ผ่านเสียงข้างมากในสภามาแล้ว ซึ่งการยื่นศาลรัฐธรรมนูญนั้นเห็นด้วยว่าจะได้ปราศจากความสงสัย แต่ไม่เห็นด้วยที่นักวิชากล่าวว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะนำไปสู่ปัญหาทางการเมือง เพราะเชื่อว่าการเมืองมีทางออกเสมอ