นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสวานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ว่าขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ในวันที่ 30 พ.ย.65 ว่า ไม่ว่าคำตัดสินของศาลจะออกมาอย่างไร จะเกิดผลทางการเมืองไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ทั้งนำบ้านเมืองไปสู่ทางตัน และทางโล่ง แต่ก็น้อมรับคำตัดสิน โดยหวังอยากให้ชาติบ้านเมืองเดินหน้าไปได้ เพื่อให้ทุกสิ่งทุกอย่างดีขึ้น โดยเฉพาะการเลือกตั้งที่กำลังรอกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งหากผลคำตัดสินทำให้การเลือกตั้งสะดุดหยุดลง รัฐสภาก็ต้องออกแรงกันมาก ซึ่งได้แต่หวังว่าผลคำวินิจฉัยจะเป็นไปในทางที่ดี
ทั้งนี้ หากศาลสั่งให้มีการแก้ไขเนื้อหาในบางมาตรา จะดำเนินการไม่ง่าย เพราะระยะเวลาที่เหลือของรัฐสภามีอยู่อย่างจำกัด ซึ่งต้องดูคำวินิจฉัยของศาลชี้ว่ามีปัญหาในจุดใด ที่กระดุมเม็ดแรก คือรัฐธรรมนูญ หรือกระดุมเม็ดที่สอง คือ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. หากปัญหาอยู่ที่กระดุมเม็ดสอง เชื่อว่าจะสามารถเร่งรัดให้แก้ได้ในห้วงเวลาที่เหลืออยู่ แต่รัฐสภาก็ต้องให้ความร่วมมือกัน หรือหากศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าเป็นปัญหาที่กระดุมเม็ดแรก เป็นห่วงว่าอาจจะใช้ระยะเวลาในการแก้ไข ซึ่งการแก้รัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกนั้น ไม่สามารถที่จะพิจารณา 3 วาระรวดพร้อมกันได้ เนื่องจากมีกรอบขั้นตอนตามกฏหมายอยู่
ประธานวิปฝ่ายค้าน ระบุว่า หากท้ายที่สุด ศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ก็ถือว่าเป็นทางที่โล่ง ซึ่งถือว่าสมบูรณ์แล้ว ในการมีกฎหมายหรือกลไกในการจัดการเลือกตั้ง หากยุบสภาหรือเกิดอะไรขึ้น ก็สามารถจัดการเลือกตั้งได้เลย และเชื่อว่าจะเป็นกฎหมายที่ทุกคนให้ความยอมรับ หลังจากเกิดความเห็นต่างในการพิจารณาของรัฐสภา ข้อเห็นต่างก็จะได้ข้อยุติลง
ด้าน นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวในประเด็นเดียวกันว่า มีโอกาส 50:50 ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะเห็นชอบตามที่ร้อง ซึ่งถ้าศาลฯ วินิจฉัยออกมาแล้วว่าหาร 100 ไม่ผิดรัฐธรรมนูญ สิ่งที่ร้องไปฟังไม่ขึ้น ก็ถือว่ากฎหมายลูกจบ ก็จะได้ระบบเลือกตั้งบัตร 2 ใบ หารด้วย 100
แต่ถ้าศาลรัฐธรรมนูญเห็นด้วยกับคำร้อง ก็จะต้องฟังคำวินิจฉัย แล้วไปดำเนินการปรับแก้ตามที่ศาลฯ วินิจฉัยมา อาจจะต้องถอยหลังมาแก้รัฐธรรมนูญบางมาตราให้สอดคล้องกับการหาร 500 แต่คงไม่ถึงขั้นกลับมาแก้เป็นบัตรเลือกตั้งใบเดียว เพราะเป็นไปได้ยาก หรือไม่ต้องถอยมาแก้รัฐธรรมนูญ แต่ไปปรับกฎหมายลูกตามคำวินิจฉัยของศาลฯ
ทั้งนี้ หากศาลฯ วินิจฉัยว่าหาร 100 ผิดรัฐธรรมนูญ จะสามารถแก้ไขได้ทันก่อนหมดสมัยประชุมสภาฯ หรือไม่นั้น นพ.ระวี กล่าวว่า อยู่ที่รัฐสภาจะตัดสินใจใช้เวลาแก้ไขมากน้อยเพียงใด แต่ก็จะเกิดเป็น 2 ด้าน คือ ถ้าศาลวินิจฉัยว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ แสดงว่าหลังปีใหม่ รัฐบาลมีโอกาสยุบสภาได้ แต่ถ้าศาลวินิจฉัยว่าขัดรัฐธรรมนูญ ต้องแก้ไขและเสนอกฎหมายลูกใหม่ รัฐบาลจะยุบสภาได้ประมาณกลางเดือนมี.ค. 66 เพราะจะต้องมีเวลาแก้ไขกฎหมายลูกก่อน
"ถ้าเกิดกระบวนการยืดเยื้อ สมมติว่า หากศาลให้ใช้วิธีการหาร 500 ปรากฎว่ามีคนไปยื่นร้องว่าหาร 500 ผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 91 อีก ถ้าแบบนี้ก็เสร็จไม่ทันหมดสมัยสภาฯแน่นอน แต่ก็มีทางออก หากรัฐบาลจะยุบสภา ก่อนยุบสภาก็สามารถออกเป็นพ.ร.ก.เลือกตั้งส.ส.ได้ ดังนั้น สิ่งที่หลายคนกังวลว่าอาจทำให้รัฐบาลอยู่รักษาการยาวนั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะต้องมีการเลือกตั้งตามกำหนดแน่นอน แต่จะออกเป็นพ.ร.ก.หรือเป็นไปตามศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ต้องรอดูกันต่อไป" นพ.ระวี กล่าว