คณะก้าวหน้า นำโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธาน, นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการ และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหาร เป็นตัวแทนของประชาชนกว่า 70,000 รายชื่อที่ร่วมรณรงค์เสนอร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ... เกี่ยวกับการปลดล็อกกระจายอำนาจท้องถิ่น โดยเตรียมจะนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงเย็นวันนี้ หรือวันพรุ่งนี้ (30 พ.ย.)
ร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขนี้ จะทำให้เห็นถึงความสำคัญของการกระจายอำนาจ ยุติการรวมศูนย์ที่ส่วนกลาง
สำหรับในร่างกฎหมายฉบับนี้ จะมีหลักการที่สำคัญ ได้แก่
1. การจัดสรรภาษีให้เป็นธรรม จากส่วนแบ่งภาษีในปัจจุบัน ที่ส่วนกลางได้รับ 70% ท้องถิ่นได้รับ 30% โดยปรับให้เป็น 50% เท่ากัน เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีงบประมาณเพียงพอในพื้นที่ของตัวเอง
2. เรื่องอำนาจ โดยมองว่าส่วนกลางไม่เปิดโอกาสให้ท้องถิ่นพัฒนาพื้นที่ของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ต้องปลดล็อกให้ท้องถิ่นมีอำนาจเต็มที่ในการดูแลจัดการบริการสาธารณะในพื้นที่ของตัวเอง
3. การจัดทำประชามติ เพื่อยุบราชการส่วนภูมิภาคลง พร้อมควบรวมข้าราชการ และงบประมาณที่อยู่ในส่วนภูมิภาคเข้ากับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยขอเชิญชวนประชาชนมาแลกเปลี่ยนความเห็นเพื่อนำไปสู่ข้อสรุปในรูปแบบการทำประชามติ
"อยากขอความร่วมมือ และเสียงของทุกท่าน ให้โหวตผ่านวาระ 1 ไป แล้วไปแก้ไขพูดคุยกันในรายละเอียด ถ้าท่านไม่เห็นด้วย แก้ไขในรายละเอียด แลกเปลี่ยนถกเถียงกันด้วยความหวังดีต่อชาติบ้านเมืองในวาระที่ 2 วาระที่ 3 ได้...ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าร่างรัฐธรรมนูญนี้จะเป็นการปลดล็อกพลัง ปลดล็อกศักยภาพของสังคมไทย จะทำให้ประเทศไทยที่ถูกกักขังมานาน ชนบทไทยที่ไม่สามารถพัฒนาได้ เดินต่อไปข้างหน้าได้อย่างมีพลังกับการมีส่วนร่วมของประชาชน พลังความคิดสร้างสรรค์ของประเทศไทยจะถูกระเบิดออกมา และนี่จะเป็น New S-Curve ทางเศรษฐกิจก้อนใหม่ของประเทศไทย" นายธนาธร กล่าว
นายธนาธร มองว่า การที่กฎหมายฉบับนี้จะผ่านสภาหรือไม่นั้น ส่วนตัวเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ที่ปัจจุบันเป็น ส.ส.พรรคก้าวไกล จะได้นำแนวนโยบายและแนวอุดมการณ์นี้ไปทำงานสานต่อในการเลือกตั้ง และสภาฯ สมัยหน้า
"เรามีความตั้งใจจริง ที่จะผลักดันให้ร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านได้ ขอให้ติดตามการอภิปรายหลักการ และเหตุผล ว่าทำไมการปลดล็อกท้องถิ่นจึงสำคัญต่ออนาคตประเทศ" นายธนาธร กล่าว