นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงปัญหาองค์ประชุมล่มบ่อยในช่วงนี้ว่า ไม่ใช่เกมการเมืองในสภาเพื่อยื้อร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง แต่เป็นเรื่องที่ฝ่ายค้านไม่ร่วมเป็นองค์ประชุมในการโหวตมาตรา 9/1 ร่าง พ.ร.บ. การเข้าชื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พร้อมยอมรับกรณีสภาล่มเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.นั้น ตนก็ลืมกดบัตรแสดงตนเช่นกัน แต่ขอสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอย่าย่อท้อ เพราะเชื่อว่ายังมีเวลาเพียงพอที่จะทำงาน และในสัปดาห์ต่อๆ ไป ขอให้รับผิดชอบมาร่วมประชุม พร้อมย้ำว่า หากรัฐบาลต้องการให้กฎหมายผ่านสภา จะต้องดูแลเรื่ององค์ประชุมให้ครบ
สำหรับร่างกฏหมายที่มีความจำเป็นและสำคัญที่ต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จ เช่น ร่าง พ.ร.บ.ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ หรือ ร่างพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งเป็นเรื่องด่วนที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่งมา รวมถึงร่างกฏหมายฉบับอื่นอีกกว่า 10 ฉบับ โดยเชื่อเวลาที่เหลือของสภาฯ 2 เดือนจะเพียงพอ หากองค์ประชุมไม่มีปัญหา
ทั้งนี้ สมัยประชุมสภาฯ จะจบแค่วันที่ 28 ก.พ.66 ซึ่งขณะนี้ ญัตติอภิปรายทั่วไปมาตรา 152 ของฝ่ายค้านยังไม่ได้เสนอมา ต้องเผื่อเวลาให้ส่วนนี้ด้วย
นายชวน กล่าวว่า ได้นัดประชุมเพิ่มเติมในวันศุกร์ที่ 16 ธ.ค. จากนั้นก็จะไม่ได้นัดวันศุกร์ไปจนถึงช่วงปีใหม่ และจะหารือวิป ทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อเคลียร์วาระการพิจารณา โดยในเรื่ององค์ประชุมนั้น ได้ปรึกษานายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ในฐานะรัฐบาล ขอให้เป็นคนกลางประสานพรรครัฐบาล ขอความร่วมมือร่วมการประชุมสภาฯ เพราะการประชุมสภาเป็นหน้าที่ของทุกฝ่าย แต่กลไกระบบนี้ รัฐบาลเสียงข้างมากต้องคุมเสียงให้สภาฯ พิจารณาไปได้ "สภายุคนี้ต่างจากสมัยก่อน ที่นายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองในฐานะเสียงข้างมาก แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีเลย ผู้ใหญ่ที่เป็นหลักในสภา หมายถึงผู้บริหารระดับสูง ไม่มีนายกรัฐมนตรี ไม่มีรองนายกรัฐมนตรี มอบแต่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมาดูแล ซึ่งก็ดูแลไม่ทั่วถึงในสภาฯ ขณะนี้จึงต้องทำหน้าที่กันเอง ประธานสภา และรองประธานสภาต้องหารือกันเอง แทนที่จะเป็นฝ่ายบริหารเข้ามาดูแล ก็ทำให้ไม่เหมือนสมัยก่อน โดยหวังว่าเมื่อแจ้งนายวิษณุ ไปแล้วจะแจ้งต่อนายกรัฐมนตรีรับทราบ เพื่อให้เรียกหัวหน้าพรรคทั้งหลายมาหารือ ว่าแต่ละพรรคต้องกำชับลูกพรรค" นายชวน กล่าว