คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.)มีมติให้คณะอนุกรรมการไต่สวนกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร บริหารราชการแผ่นดินเอื้อประโยชน์ตนเองหรือพวกพ้อง ปิดสำสวนไต่สวนคดีที่กล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไต้ทรัพย์สินมาโดยมิสมควร หรือคดีร่ำรวยผิดปกติ หลังจากครอบครัวชินวัตรเพิกเฉยไม่นำพยานหลักฐานมาหักล้างข้อกล่าวหา
คตส.ระบุว่า ตามข้อกล่าวหานั้นได้ระบุพยานหลักฐานที่ทำให้เชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณและภริยา ยังคงถือไว้ซึ่งหุ้นบมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น(SHIN)โดยชัดเจนว่ามีหลักฐานทางบัญชีของธนาคารหรือสถาบันจัดการหลักทรัพย์เช่นใด หากไม่เป็นความจริง พ.ต.ท.ทักษิณที่เป็นลูกค้าผู้ใช้บริการก็ควรเรียกเอกสารหลักฐานคำอธิบายต่างๆ จากสถาบันเหล่านั้น หรือจากบุตรหรือพี่น้องผู้มีชื่อเปิดบัญชีมาแสดงหักล้างโดยตรงได้ หากนำเสนอซึ่งหลักฐานชี้ขาดเช่นนี้ได้เมื่อใด คตส.ก็มีหน้าที่ต้องรับฟังรับนำเข้าสู่สำนวนในทันที
แต่กลับปรากฎว่าฝ่ายครอบครัวชินวัตรได้เพิกเฉยไม่นำพยานหลักฐานชี้ขาดเหล่านี้มาเสนอต่อ คตส. เลยทั้งในคดี เอกซิมแบงก์, คดีขอเพิกถอนอายัดทรัพย์ หรือแม้แต่ในคดีที่ร่ำรวยผิดปกติที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ปฎิเสธลอยๆในทุกประเด็น และกล่าวอ้างพยานหลักฐานให้ คตส.สอบปากคำร้อยกว่าปาก แต่ทุกปากล้วนมิใช่พยานที่จะชี้ขาดหักล้างข้อกล่าวหาแต่อย่างใด หากสอบต่อไปอย่างไรก็ไม่มีผลเปลี่ยนรูปคดีไปได้ การรับฟังพยานเหล่านี้จึงไม่เป็นประโยชน์ต่อการไต่สวนแม้แต่น้อย
"การไม่รับฟังพยานของผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้เป็นการละเมิดสิทธิในการต่อสู้คดี แต่เป็นกระบวนการไต่สวนหาความจริงของคตส.ตามที่กฎหมายกำหนดว่าตามระบบการไต่สวนนั้นจะรับฟังพยานใดบ้างอย่างไร เป็นอำนาจฝ่ายเดียวของผู้ไต่สวน ไม่ใช่การใช้สิทธิต่อสู้คดีในชั้นศาล"คตส.ระบุในเอกสารแถลงข่าว
คตส.ยังมีมติตามอำนาจในกฎหมายสั่งการให้ ก.ล.ต.ส่งมอบพยานการถือครองวินมาร์ค โนครอบครัวชินวัตรให้แก่อนุกรรมการไต่สวนใน 10 เม.ย.51 ซึ่งพยานหลักฐานชุดนี้พิสูจน์ได้แล้วว่ามีน้ำหนักยืนยันความผิดของผู้เกี่ยวข้องได้อย่างแน่นหนามาก ถึงขนาดที่ก.ล.ต.และเจ้าพนักงานกรมสอบสวนคดีพิเศษ ไม่อาจสั่งคดีเป็นอย่างอื่นไปได้ ต้องกล่าวหาครอบครัวชินวัตรว่าซุกหุ้น บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น(SC) ผ่านบริษัทวินมาร์ค (ผิดกฎหมายตลาดหลักทรัพย์)ในที่สุด มาในคดีของคตส.นี้ก็จะกลายเป็นหลักฐานว่า ครอบครัวชินวัตร ถือหุ้นชินฯ ผ่านบริษัทวินมาร์คเป็นอีกคดีหนึ่ง
--อินโฟเควสท์ โดย คลฦ/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--