นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง กล่าวถึงกรณีที่นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ พ.ร.บ.กัญชาฯ ว่ายังขาดความรัดกุม โดยขอให้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากกฎหมายต่างประเทศ ว่า คณะที่ร่างกฎหมายฉบับนี้มีทั้งสิ้น 24 คน เป็นตัวแทนมาจากทุกพรรคทุกฝ่าย ประชาชน หมอ ผู้เชี่ยวชาญ ฝ่ายการเมือง เพื่อให้ร่างกฎหมายออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ประเด็นที่มีการวิจารณ์นั้นเคยพิจารณาไปหมดแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องไปเดินตามแบบใคร แต่จะทำให้คนไทยได้ประโยชน์สูงสุด ยึดประชาชนเป็นสำคัญ ความเข้าใจของต่างชาติที่มีต่อกัญชาต่างกับประวัติศาสตร์ของประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับกัญชา
"เราต้องยึดถือในแบบของเราจึงจะถูกต้อง ซึ่งความเป็นห่วงของท่านในกฎหมายก็มีการระบุเรื่องการควบคุมไว้แล้ว เพียงแต่มันอาจจะไม่ตรงใจท่าน แต่เราเขียนให้สอดคล้องกับการใช้จริงในประเทศไทย" นายศุภชัย กล่าว
ประธาน กมธ.ฯ กล่าวว่า สังคมไทยมีการใช้กัญชามานานตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีบันทึกตำรับยาที่ใช้กัญชาเป็นส่วนผสมเป็นจำนวนมาก และมีการใช้มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ขณะที่หมอพื้นบ้านในแต่ละภาคยังได้ใช้กัญชาในการรักษาอาการป่วยไข้ต่างๆ อย่างแพร่หลาย ในระดับประชาชนมีการใช้กัญชาเพื่อลดอาการเจ็บปวดต่างๆ ได้เป็นอย่างดี การใช้นั้นมีทั้งการใช้ในรูปแบบการสกัดไปจนถึงการนำส่วนต่างๆ มาปรุงตามสูตรยา ไปจนถึงการใช้ในชีวิตประจำวัน องค์ความรู้ของไทยมีความลึกซึ้งกว่านานาชาติมาก
"จะนำกรอบที่นานาชาติวางไว้มาใช้กับเราแบบเป๊ะๆ นั้นจึงเป็นเรื่องไม่สมควร อย่าลืมว่า เสื้อสูท มันอาจะเหมาะสมกับฝรั่งแต่ไม่เหมาะกับให้คนไทยใส่ คนไทยสวมผ้าไทยก็สบายสะดวก เรื่องกัญชาก็เหมือนกัน อย่าเพิ่งคิดว่า กฎหมายของเขาจะดีกว่าของเรา เพราะในความเป็นจริง มันอาจจะไม่เหมาะเลย เผลอๆ เอาของเขามาใช้ ยิ่งจะเป็นการทำลายภูมิปัญญาของไทยเข้าไปอีก" นายศุภชัย กล่าว
ประธาน กมธ.ฯ กล่าวว่า สิ่งที่ตนสงสัยมากที่สุดคือ ทำไมเลขาธิการสภาพัฒน์จึงออกมาวิจารณ์เรื่องนี้ ซึ่งเป็นการพิจารณาในสภาของอำนาจนิติบัญญัติ ขณะที่เลธิการสภาพัฒน์เป็นฝ่ายประจำสังกัดอำนาจบริหารมีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายที่อำนาจนิติบัญญัติออกมาใช้บังคับ จู่ๆโผล่มาแบบนี้ เรียกว่าสำคัญตัวเองผิดหรือไม่รู้หน้าที่ จึงออกมาก้าวก่ายอำนาจอธิปไตยอื่น
"ผมคิดว่า สภาพัฒน์ควรจะทำหน้าที่ของตนตามนโยบายรัฐบาลคิดวางแผนว่าจะทำอย่างไรให้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่สร้างรายได้ให้กับประชาชน ทำอย่างไรทำให้การวิจัยและพัฒนายากัญชาได้ใช้กันมากขึ้น เพื่อลดการนำยานอกมาใช้เราคนไทย ควรจะช่วยกันผลักดันให้ร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านสภา เพื่อให้ได้กฎหมายที่ชัดเจนมาตีกรอบการใช้ สร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ผู้ประกอบการ ผู้บังคับใช้กฎหมาย เราจะได้เดินหน้าเปลี่ยนกัญชาเป็นยาสมุนไพร และเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจสำหรับประชาชนอย่างจริงจังเสียที เราไม่ควรมาเสียเวลากับการมานั่งติ นั่งค้าน ทำให้เสียโอกาสไปวันๆ" นายศุกชัย กล่าว