พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ประกาศชัดเจนถึงการไปร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพียงคนเดียว
"ผมได้ตัดสินใจวันนี้แล้วกัน ได้เตรียมการพอสมควรจะไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ จะได้สบายใจกัน แล้วแต่ประชาชนจะให้การสนับสนุนหรือไม่อย่างไร"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ส่วนจะสมัครเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติอย่างเป็นทางการและเข้าไปนั่งเป็นกรรมการบริหารพรรคหรือไม่นั้น ยังไม่ได้คิดถึงขั้นนั้น แต่ตอนนี้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติเพียงคนเดียว ส่วนหลังจาก 2 ปีที่จะครบกำหนดการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดจะทำอย่างไรต่อไปนั้น ขออย่าเพิ่งถามไปุถึงตรงนั้นเลย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้กราบเรียนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐไปหลายครั้งแล้ว จนสุดท้ายได้ตัดสินใจและได้แจ้งให้ พล.อ.ประวิตรทราบ ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร ไม่มีความขัดแย้งอะไรทั้งสิ้น เป็นเรื่องทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย พร้อมยืนยันว่า ความสัมพันธ์กับพล.อ.ประวิตรยังคงเหมือนเดิม ไม่ได้จากกันไปไหน ยังพูดคุยกันอยู่เหมือนเดิม
ขณะที่ครอบครัวก็ให้การสนับสนุนเต็มที่และเข้าใจในสิ่งทำเพื่ออะไร
นายกรัฐมนตรี ชี้แจงอีกว่า สาเหตุที่ตัดสินใจเช่นนี้ เพราะจากการติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของหลายพรรคการเมือง และมีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรค ที่ผ่านมาได้พิจารณาจากหลักการและเหตุผลต่างๆ แล้ว วันนี้พรรครวมไทยสร้างชาติได้เสนอมาว่า ยินดีสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งต่อไป จึงจำเป็นต้องทำให้เกิดความชัดเจน ไม่เช่นนั้นจะมีการวิพากษ์วิจารณ์ ทำให้เกิดความเสียหายหลายอย่าง
"วันนี้จำเป็นต้องพูด เพราะเกรงว่า ถ้าไม่พูดก็จะวิพากษ์วิจารณ์ไปเรื่อยๆ ผมก็ตัดสินใจไปแล้ว อย่างไรก็ตามก็ขอบคุณพรรคพลังประชารัฐในการสนับสนุนผมเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งที่ผ่านมา เราไม่ใช่ศัตรูกัน...ผมเคยบอกแล้วว่า ผมได้รับการสนับสนุนจากพรรคพลังประชารัฐ แต่วันนี้พลังประชารัฐได้ตัดสินใจเสนอชื่อหัวหน้าพรรค เป็นนายกรัฐมนตรีไปแล้ว" นายกรัฐมนตรี กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การทำงานที่ผ่านมาต่อเนื่องหลายปีได้มีการสานต่องานมาโดยตลอด ทั้ง 4 ปีแรกและเกือบ 4 ปีหลัง หากสามารถอยู่ได้ตามวาระของรัฐบาลก็จะสานต่อสิ่งที่ค้างคาให้สำเร็จ โดยกำหนดนโยบายและดูแลทุกพื้นที่ ทุกพรรค เพราะแผนงานลงไปทุกจังหวัด ซึ่งหลายจังหวัดก็ไม่ได้มี ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ เพราะมองที่ประชาชนเป็นหลัก สิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนก็นำเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อจัดสรรงบประมาณลงไป ทำอย่างโปร่งใส ไม่ได้แสวงหาผลประโยชน์ใดๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยึดมั่นมาโดยตลอด
ส่วนความชัดเจนของรัฐบาลว่าจะยังทำหน้าที่ต่อจนครบวาระหรือจะยุบสภาก่อนหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้เคยบอกไปแล้วยังมีปัญหาหลายอย่างที่ยังต้องดำเนินการอยู่ เพราะฉะนั้นคงดูจังหวะเวลา แต่ทุกอย่างจะเป็นไปตามกรอบกฏหมาย และคงมีการหารือกับพรรคการเมืองใหม่และพรรคร่วมรัฐบาลด้วย
นายกรัฐมนตรี ได้ตอบคำถามถึงอนาคตทางการเมืองว่าจะยังจับมือทำงานร่วมกับพล.อ.ประวิตร ต่อไปหรือไม่ว่า ขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้ง และยังไม่ทราบว่าใครจะได้รับเลือกตั้งเข้ามาบ้าง เมื่อถึงเวลานั้นทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ใครสามารถรวบรวมคะแนนเสียงได้มากกว่า ก็ได้จัดตั้งรัฐบาลเหมือนการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา
แต่สิ่งสำคัญในการเลือกตั้งครั้งหน้านี้ ต้องมองว่าจะได้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเรื่องอนาคตไม่มีอะไรแน่นอน ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน และมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นการเลือกตั้งที่สำคัญที่สุด ขอให้ไตร่ตรองให้รอบคอบ ฝากประชาชนให้เลือกรัฐบาลที่ดี ซื่อสัตย์สุจริต ทำในสิ่งที่เป็นไปได้ และสิ่งที่ถูกต้อง
เมื่อถามว่าเป็นความท้าทายหรือไม่ เพราะต้องมาทำพรรคการเมืองเองนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนนี้ก็มีหัวหน้าพรรคอยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญต้องหารือว่าสิ่งที่รัฐบาลได้ทำไว้ต้องมีการสานต่อไปสู่อนาคต มั่นคงและยั่งยืน และเป็นนโยบายที่ต้องทำได้จริง มีงบประมาณรองรับ และตลอดเวลาที่ผ่านมา ตนพยายามหารายได้เข้าประเทศ ใช้จ่ายงบประมาณอย่างระวัดระวัง และบริหารให้ดีที่สุด ซึ่งสถานะการเงินการคลังของประเทศก็อยู่ในระดับที่ดี
นายกรัฐมนตรี ยังขอให้ทุกคนอย่าท้อแท้ อย่าทะเลาะเบาะแว้งกัน เพราะถ้ามุ่งแต่ทะเลาะกันทุกสิ่งทุกอย่างก็กลับที่เดิม และยืนยันว่าจะทำให้บ้านเมืองให้สงบเรียบร้อยที่สุด แต่คงไม่สามารถทำคนเดียวได้ ต้องขอความร่วมมือจากประชาชน พร้อมย้ำให้เห็นใจประเทศบ้าง ถ้ายังแตกแยกอยู่แบบนี้จะไม่มีอะไรดีขึ้นเลย วันนี้จำเป็นต้องพูด เพราะดูแล้วแรงขึ้นทุกวัน ต้องค่อยๆ ลดระดับลดอุณหภูมิลงให้มากที่สุด เพื่อเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งที่มีประสิทธิภาพ มีคุณภาพ ได้ส.ส.ที่ดีเข้ามา เมื่อได้ส.ส.ที่ดีก็จะฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาลได้และได้นายกรัฐมนตรีที่ต้องการ
"ผมไม่ได้ยืนยันว่าต้องเป็นผมตลอดไป วันนี้ ขึ้นอยู่กับประชาชนจะเลือกหรือไม่ อย่างไร แต่วันนี้ไม่อยากให้โจมตีกันไปมาจนเสียหาย ผมก็รักษามารยาทเต็มที่กับทุกพรรค โดยเฉพาะพลังประชารัฐ เพราะเขาก็เสนอผมในครั้งที่แล้ว แต่วันนี้เปิดตัวกันแล้ว ผมจำเป็นต้องพูดวันนี้ จะได้เลิกการสับสนอลหม่านสักที จะได้เดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง ช่วงนี้ขออย่างเดียว ให้บ้านเมืองสงบ จะได้เลือกตั้งได้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ส่วนสถานการณ์การประชุมสภาฯ ที่ไม่สามารถเดินหน้าได้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เคยให้ความเห็นไปแล้วว่า ส.ส.ที่มาทำหน้าทีสภาฯ ขอให้แสดงตัวด้วย ถ้ามาแล้วไม่แสดงตน ไม่ลงมติ จะเป็นการละเลยการทำหน้าที่หรือไม่ คงไม่สามารถไปบังคับได้ และเคยขอร้องไปยังพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคแล้ว จึงขอให้ส.ส.ทุกคนได้ทำหน้าที่ด้วย