นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และแกนนำกลุ่มสามมิตร กล่าวถึงการตัดสินใจทางการเมืองหลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ประกาศความชัดเจนทางการเมืองที่จะไปร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติว่า ในส่วนของการเมือง ก็มีไทม์ไลน์ในการตัดสินใจ ซึ่งส่วนตัว จะดูความเหมาะสมของบริบททางการเมืองในช่วงปลายรัฐบาล และในฐานะที่ตนทำงานการเมืองเป็นเวลานาน มีเพื่อนฝูง มีพี่น้อง ต้องคำนึงหลายๆอย่าง ไม่ใช่คำนึงเพียงแต่ตัวเองเท่านั้น
"ผมคิดว่า ให้สถานการณ์เดินไปเรื่อยๆ ผมมีคนที่เคารพอยู่ หลายๆ อย่างในการตัดสินใจบนพื้นฐานพวกนี้ หลายสิ่งหลายอย่างต้องคิดให้พอสมควร"นายอนุชา กล่าว
พร้อมยืนยันว่า การตัดสินใจทางการเมืองของตน ไม่กระทบต่อการหาเสียงในพื้นที่ เพราะประชาชนในพื้นที่ค่อนข้างเข้าใจสิ่งที่ตนตัดสินใจ ซึ่งต้องเลือกในสิ่งที่เหมาะสม ไม่ใช่คำนึงเฉพาะแต่ตัวเองเป็นหลักอย่างเดียว
ต่อคำถามที่ว่า ในอนาคตจะมีการพลิกขั้วทางการเมืองหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า เวลานี้ก็อยู่กับพรรคพลังประชารัฐ แต่ในอนาคตคงต้องตัดสินใจอีกครั้ง และอนาคตยังไม่รู้ว่าการเมืองจะเป็นอย่างไร ยังไม่มีอะไร 100% ซึ่งหากตัดสินใจอย่างไร ก็เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่จำเป็นต้องยึดกับกลุ่มสามมิตร หรือมีเงื่อนไขว่าถ้าจะย้าย ต้องย้ายไปด้วยกันทั้งหมด เพราะอาจจะแยกกันไปก็ได้ และไม่จำเป็นต้องตัดสินใจก่อนวันที่ 7 ก.พ.66
"ผมเข้าใจบริบททางการเมือง และพร้อมในทุกสถานการณ์ ไม่มีอะไรมาบีบได้ แต่ก็ยอมรับว่าเป็นการตัดสินใจที่ยากมาก" นายอนุชา กล่าว
พร้อมยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่เคยชวนไปร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ และพล.อ.ประยุทธ์ ไม่เคยพูดคุยหารือในเรื่องนี้ ส่วนที่มีกระแสข่าวนายอนุชา จะไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น นายอนุชา ถามกลับเพียงว่า "กระแสเป็นอย่างนั้นหรือ"