สมคิด-สุดารัตน์ ประกาศจับมือเป็นพันธมิตรการเมือง-ไม่สนตำแหน่ง แทงกั๊กควบรวม

ข่าวการเมือง Thursday December 29, 2022 12:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ประกาศความร่วมมือเป็นพันธมิตรทางการเมือง ย้ำทั้งสองพรรคมีเจตนารมณ์เดียวกัน มีความตั้งใจเดียวกัน และเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นการควบรวมพรรค แต่ก็ไม่ได้ปิดทาง

การประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากแกนนำทั้งสองพรรคได้นัดรับประทานอาหารและร่วมหารือทิศทางทางการเมือง ซึ่งนอกจากนายสมคิด และคุณหญิงสุดารัตน์ ยังมีนายโภคิน พลกุล ประธานยุทธศาสตร์พรรค ทสท., นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค สอท., นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ทสท.

นายสมคิด กล่าวว่า ทำงานการเมืองมาเกือบ 20 ปี และทำงานหนักมาโดยตลอด แต่ไม่เคยเห็นยุคใดสมัยใดที่การเมืองค่อนข้างย่ำแย่ถึงที่สุดจนอดเป็นห่วงไม่ได้ ทั้งในเชิงรับผิดชอบต่อหน้าที่ทางการเมืองเพื่อขับเคลื่อนประเทศ ทั้งการใช้ทรัพยาการแย่งชิงผู้สมัครอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนและทำอย่างโจ่งแจ้ง และการไร้ประสิทธิภาพในการบริหารภาครัฐ รวมถึงการแก้ปัญหาปากท้องให้กับประชาชน ไม่สามารถขับเคลื่อนประเทศก้าวไปข้างหน้าด้วยความจริงจังโปร่งใส และวังวนอยู่กับความแตกแยกเป็น 10 ปีแล้ว

"เป็นเรื่องน่าเสียดายและน่าเสียใจ เรื่องของประชาธิปไตยที่แท้จริงไม่ใช่แบบนี้ และประชาชนไม่ควรได้แต่นั่งมองดู โดยไม่มีทางออก หากไม่เปลี่ยนแปลง บ้านเมืองจะถอยหลังไปเรื่อยๆ จนกู่ไม่กลับ"นายสมคิด กล่าว

นายสมคิด กล่าวว่า ด้วยเหตุนี้คิดว่าถึงเวลาต้องละวางอัตตา เพื่อช่วยกันร่วมมือกันแก้ไขปัญหาประเทศให้ได้ ทั้งคุณหญิงสุดารัตน์ นายโภคิน และตนเองทำงานร่วมกันมานาน ในสายตา คุณหญิงสุดารัตน์เป็นนักต่อสู้ประชาธิปไตยที่แน่วแน่ และมองว่าเป็นน้องสาวคนหนึ่งที่ทำงานหนัก เป็นแม่ที่ดีและยังเสียสละเพื่อบ้านเมือง

"จากการหารือเป็นระยะ เพื่อหาทางออกให้กับบ้านเมือง ทั้งทางการเมือง ทางเศรษฐกิจ และในการปรองดองของชาติ สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถบรรลุแค่ไม่กี่คน แต่ต้องอาศัยพลังจากพี่น้องประชาชน จากการหารือ ไปนั่งคิดก็เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ว่ามีทางออกประเทศอย่างไร จึงอยากใช้โอกาสนี้เชิญชวนประชาชน และนักการเมืองที่ตั้งใจดี มาร่วมกับพวกเรา หาทางออกให้กับประเทศ หานโยบายดีๆ เพื่อพัฒนาประเทศ" นายสมคิด กล่าว

นายสมคิด ยืนยันว่า การพูดคุยวันนี้ไม่มีการทดลองงาน การทำงานการเมืองครั้งนี้ ตอนแรกไม่คิดจะทำ แต่มาเพราะมีภารกิจ และต้องการให้มีพรรคการเมืองที่ดี

"ไม่เคยคิดเรื่องตำแหน่ง ไม่ต้องถามเรื่องแคนดิเดท เพราะสิ่งเหล่านี้ปลายเหตุทั้งสิ้น...เราเริ่มมีทางออก ใครเหมาะสมก็มาทำงาน สำหรับผมเรื่องตำแหน่งไม่มีความสำคัญเลย ได้มาทุกตำแหน่ง ส่วนเรื่องนายกฯ ฟ้าลิขิต ฟ้าประทาน" นายสมคิด กล่าว

ด้านคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า จากการทำงานทางการเมืองมาหลาย 10 ปี ในฐานะคนที่ผ่านประสบการณ์มา มองเห็นปัญหาด้วยความห่วงใย และเคยทำงานร่วมกับนายสมคิด ซึ่งนายสมคิดเคยทำนโยบายสำคัญๆ ให้กับประเทศสำเร็จ จึงได้มีการหารือไม่ได้เพื่อแย่งชิงตำแหน่ง แต่มาร่วมมือเป็นพันธมิตรกัน

"จากประสบการณ์พวกเรา อะไรทำให้บ้านเมืองได้ ทำให้ประเทศดีขึ้นกว่านี้ก็มาคุย เราเริ่มต้นเรื่องนี้ก่อน ไม่ได้คุยเรื่องตำแหน่ง วันนี้เราตกลงกันว่า เราพยายามหาทางออกให้กับบ้านเมือง และมีความร่วมมือเป็นพันธมิตรกัน หาทางออกให้กับบ้านเมือง" คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

คุณหญิงสุดารัตน์ ย้ำว่า วันนี้มีปัญหาจนแทบเดินต่อไม่ได้ จำเป็นต้องยุติเรื่องขัดแย้งทางการเมือง เริ่มต้นแก้รัฐธรรมนูญและมองประสบการณ์ทำอะไรให้กับบ้านเมืองได้ หรือพูดคุยเป็นพันธมิตรทางการเมืองกัน

นายโภคิน พลกุล กล่าวว่า การพูดคุยครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่มีการหารือเป็นระยะๆ ในฐานะที่เป็นเป็นเพื่อนเก่ากัน และเห็นตรงกันว่า บ้านเมืองมีปัญหาและที่กังวลที่สุด คือ เงิน อำนาจและอิทธิพล ครอบงำประเทศ ระบบราชการไม่ตอบสนองต่อประชาชน และ 16-17 ปีที่ผ่านมา มีความขัดแย้งทางความคิด มีการสร้างวาทะกรรมทำให้เกิดความเกลียดชังกัน ประเทศเดินหน้าต่อไปไม่ได้ หนี้สินประเทศมากกมาย และถ้าสถานการณ์ยังคงเป็นแบบนี้ต่อไป ประชาชนจะมีอนาคตที่ดีได้อย่างไร ประเทศจะเดินต่อไปได้อย่างไร

นายโภคิน ยังกล่าวว่า ได้มีการหารือกันว่า ปัญหาของประเทศเห็นตรงกันหรือไม่ ซึ่งเห็นว่า ประเทศต้องการอุดมการณ์ ต้องการการเอาจจริงเอาจัง ความทุ่มเท เสียสละในการแก้ปัญหา และทำให้ประชาชนเห็นว่า ต้องร่วมมือทุกฝ่ายให้ประเทศเดินหน้าไปได้ ซึ่งสิ่งที่เห็นตรงกัน คือ ต้องมีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชาชน เพราะถ้าไม่มีสิ่งนี้ไม่มีทางที่ประชาชนจะมีส่วนร่วมและเป็นเจ้าของอำนาจได้ และอยากเห็นให้การเลือกตั้งไม่จำนนต่ออำนาจรัฐ เงิน หรืออิทธิพลต่างๆ และอยากให้มีการหาทางออกร่วมกัน เพื่อเดินไปข้างหน้าได้

สาเหตุที่ยังไม่มีการรวมพรรค เนื่องจากทุกอย่างต้องเริ่มต้นจากเรื่องอุดมการณ์ตรงกันหรือไม่ ยุทธศาสตร์และนโยบายที่จะทำร่วมกันตรงกันหรือไม่ ซึ่งเรามีการพูดคุยเป็นระยะ ส่วนจะทำอะไรต่อไปคงจะมีแจ้งให้ทราบอีกครั้ง และที่คุยกันเห็นตรงกันหมด และอาศัยความรู้ประสบการณ์ที่ผ่านมา ที่สำคัญคือ ความจริงใจและความตั้งใจ และไม่ได้มาเพื่อขอเป็นแคนดิเดตนายกฯ แต่ตนอยากเห็นการมองประชาชนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งถ้าผมทำไม่สำเร็จ ก็มีคนรุ่นใหม่ไปทำต่อ ถ้าเริ่มต้นได้ก็พัฒนาต่อกันได้

นายอุตตม สาวนายน กล่าวว่า ที่มาของการพูดคุยกัน เนื่องจากเห็นปัญหาตรงกัน และหารือกันว่าจะมีทางหรือไม่ที่จะทำงานร่วมกัน ช่วยกันทำงานให้กับบ้านเมือง และปัญหาบ้านเมืองวันนี้ ใหญ่กว่าคนไม่กี่คนแก้ปัญหาได้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นทำงานและไม่สายไปทำงานตอนนี้ ร่วมกันคิด ร่วมกันทำงาน และวันนี้เห็นพ้องต้องกันทำงานร่วมกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ