นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการทำงานของสภาฯ ในปี 2566 ว่า ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของสมาชิกเป็นสำคัญ ทั้งนี้ เตรียมจะเชิญคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) วิปฝ่ายค้าน และวิปวุฒิสภา มาหารือร่วมกัน คาดว่าจะเป็นวันที่ 4 ม.ค.66 เพื่อเร่งรัดการพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญ 3 ฉบับ ได้แก่ ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ, ร่าง พ.ร.บ.มาตรฐานวิชาชีพสื่อ และร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่ฝ่ายค้านเสนอล่าสุด เนื่องจากรัฐสภาใกล้จะปิดสมัยประชุมในวันที่ 28 ก.พ.66 จึงจะขอความร่วมมือทุกฝ่ายให้ใช้เวลาที่เหลืออยู่ของสภาฯ ทำหน้าที่ให้ลุล่วง
พร้อมฝากเตือน ส.ส.อย่าชะล่าใจ เพราะในช่วงใกล้หมดวาระของสภาฯ ประชาชนย่อมจับตาดูการทำงานอย่างใกล้ชิด
"การทำงานปี 66 อยู่ที่ความร่วมมือของสมาชิก ตั้งใจว่าหลังปีใหม่ หรือวันที่ 4 ม.ค. จะเชิญวิป 3 ฝ่าย คือวิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน และวิปวุฒิสภา มาหารือเพื่อเร่งรัดกฎหมายที่เลื่อนขึ้นมาพิจารณา 3 ฉบับ ช่วงก่อนสภาฯ หมดวาระมีความหมาย เพราะประชาชนจับตาดูอยู่ ใครที่คิดว่าชนะแน่ๆ และชนะท่วมท้น สถานการณ์อาจจะเปลี่ยนก็ได้ ต้องระมัดระวังจนนาทีสุดท้าย" นายชวน กล่าว
ประธานสภาฯ ยังกล่าวถึงการควบคุมเสียงส.ส.ให้เข้าร่วมประชุมว่า รู้สึกเห็นใจวิปรัฐบาล และผู้ควบคุมเสียง เนื่องจากหัวหน้ารัฐบาลไม่ได้เป็นผู้แทนราษฎร อีกทั้งหัวหน้าพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็ไม่ได้เป็นผู้แทนราษฎรเช่นกัน ดังนั้นจึงต้องประสานงานผ่านทางรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ซึ่งก็ไม่สามารถตัดสินใจในบางเรื่องได้
"รู้สึกเห็นใจวิปรัฐบาล และผู้ควบคุมเสียง ผมพยายามช่วยประสานขอความร่วมมือ แต่พอถึงเวลาจริงๆ ก็เหนื่อย และเป็นสิทธิของสมาชิกที่จะกดองค์ประชุม เราจึงไปตำหนิไม่ได้ ทำได้แค่ขอความร่วมมือ โดยหลังปีใหม่ จะขอความร่วมมือทุกฝ่าย และใช้เวลาที่เหลืออยู่ของสภาฯ ทำหน้าที่ให้ลุล่วงไปให้ได้" ประธานสภาฯ กล่าว
พร้อมมองว่า การเตรียมโยกย้ายพรรคการเมืองใหม่ของ ส.ส. อาจจะทำให้รวบรวมองค์ประชุมได้ง่ายขึ้น โดยหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ที่ ส.ส.จะไปสังกัด อาจขอให้ ส.ส.ชะลอการลาออก เพื่อทำหน้าที่ในสภาฯ ก่อนในระยะสุดท้ายที่เหลืออยู่อีกไม่นาน