ที่ประชุมร่วมรัฐสภาที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ?. ต่อเป็นวันที่ 2 หลังวานนี้พิจารณาถึงมาตรา 7 และมีปัญหาองค์ประชุมไม่ครบ
สำหรับวันนี้การลงมติในมาตรา 8 ซึ่งผ่านไปได้ด้วยดี จนกระทั่งเวลา 12.30 น.ที่ประชุมลงมติมาตรา 8/1 ซึ่งช่วงเปิดนับองค์ประชุมครบ 349 คน แต่เมื่อให้โหวตลงมติว่า จะเห็นด้วยที่ขอเพิ่มมาตรา 8/1 หรือไม่ ผลปรากฏว่า มีผู้ลงมติเพียง 339 คน ถือว่าไม่ครบองค์ประชุม ซึ่งนายพรเพชรยังไม่ได้ขานคะแนน แต่กลับปิดหน้าจอแสดงตัวเลขทันที โดยนายพรเพชรพยายามที่จะขอตรวจสอบองค์ประชุมอีกครั้งหนึ่ง
ขณะที่ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย (พท.) ขอให้ประธานขึ้นจอแสดงตัวเลขอีกครั้ง เพราะตัวเลขขึ้น 339 คนถือว่าไม่ครบองค์ประชุม แต่นายพรเพชรแย้งว่าดูในจอแล้วไม่ใช่อย่างนั้น ทำให้นายจิรายุแย้งว่าเมื่อสักครู่ตัวเลขแสดง 339 คน แสดงว่ามีมือที่สามไปเพิ่มตอนเช็คองค์ประชุม ขอให้ประธานลงมติอีกครั้ง นายพรเพชรจึงขอให้ลงมติใหม่
นายสมชาย แสวงการ ส.ว.ในฐานะเลขาธิการวิปวุฒิสภา แจงว่า ระหว่างตรวจสอบองค์ประชุมยืนยันว่ามีครบแน่นอน แต่เมื่อลงคะแนน อาจจะไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุม ซึ่งเป็นความรับผิดชอบ แต่ถ้ามีปัญหาเรื่ององค์ประชุมไม่ครบ เราจะตอบสังคมไม่ได้ การทำงานทางการเมืองที่ใกล้จะเลือกตั้ง ประชาชนจะไว้ใจสมาชิกรัฐสภาได้อย่างไร เมื่อมีปัญหาในการนับคะแนนให้ใช้ข้อบังคับการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อให้การประชุมเดินหน้าต่อไป และประธานฯ สามารถให้นับองค์ประชุมใหม่ได้ด้วยการลงมติ
อย่างไรก็ตาม นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นประท้วงการทำหน้าที่ของประธานฯ ว่า ตัวเลข 339 คน ถือว่าองค์ประชุมไม่ครบแล้ว หากประธานฯ จะเดินหน้าต่อ ฝ่ายค้านก็คงไม่ร่วมในกระบวนการที่ไม่มีข้อบังคับได้
ขณะที่ฝ่ายค้านเสนอให้ปิดประชุม เพราะมาตราอื่นก็จะมีปัญหาอีกได้ ไม่เช่นนั้นปัญหาจะบานปลายไปเรื่อยๆ ถ้าเปิดประชุมถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งประธานสภาฯ ทำให้นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ส.ว. สนับสนุนขอให้ปิดประชุม จนนายพรเพชรต้องแจ้งว่า เมื่อองค์ประชุมไม่ครบ จึงขอปิดประชุมในเวลา 12.49 น.