น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงการประกาศรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคฯ ว่า พรรคฯ พร้อมประกาศรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งตอนนี้มีหลายกระแสเรื่องยุบสภา โดยการเปิดตัวยังอยู่ในไทม์ไลน์แน่นอน แต่ต้องดูหลายปัจจัย เพราะยังไม่มีการระบุวันที่ออกมา ต้องดูเรื่องสภาฯ ประกอบด้วย
ด้าน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา ในฐานะเลขาธิการพรรคฯ กล่าวว่า แคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ต้องรอให้คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาก่อน ส่วนจะเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ได้ก่อนเดือน ก.พ.นี้หรือไม่ต้องดูเหตุการณ์ประกอบ เพราะวันที่ 7 ก.พ.นี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ ส.ส.จะต้องย้ายพรรคก่อนที่สภาฯ ครบวาระ และเหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลต่อองค์ประชุมสภาฯ มีปัญหาและเข้าสู่การยุบสภาฯ ก็เป็นได้ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ไปเข้าสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) แต่พรรคไม่มี ส.ส.ก็เป็นไปได้ว่าจะยุบสภาฯ เพื่อหนีการอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญ
ขณะนี้รัฐบาลแจ้งกรอบเวลาในการอภิปรายฯ มาว่าจะเป็นหลังวันที่ 15 ก.พ.66 ซึ่งฝ่ายค้านยื่นญัตติดังกล่าวไปเมื่อปลายเดือน ธ.ค.65 ปกติหลังจากยื่นญัตติจะทราบผลแล้ว แต่ตอนนี้ผ่านมา 45 วันแล้วถือว่านานผิดปกติ ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้จึงประเมินช่วงเวลาในการเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ด้วย
สำหรับความชัดเจนว่า นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.แสนสิริ (SIRI) จะมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรคหรือไม่ หลังมีข่าวเตรียมลงพื้นที่กับครอบครัวเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า "ไม่ทราบว่าสื่อมวลชนทราบข่าวมาจากไหน เพราะท่านอยู่ต่างประเทศ ท่านเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยก็สามารถมาช่วยหาเสียงได้ ไม่ผิดกฎหมาย แต่ท่านไม่มีแพลนมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะเดินทางไปต่างประเทศตั้งแต่หลายวันก่อนหน้านี้แล้ว"
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า นายเศรษฐามีโอกาสที่จะมาร่วมหาเสียงกับพรรคแน่นอน ทุกคนที่เป็นสมาชิกของพรรคสามารถมาช่วยพรรคหาเสียงได้ เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยแอบขอคำแนะนำจากนายเศรษฐา ทั้งเรื่องนโยบาย เศรษฐกิจ เพราะเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ นอกจากนายเศรษฐาแล้ว เรายังปรึกษานักวิชาการ ผู้มีความรู้ต่างๆ มากมาย เพื่อมาทำนโยบายที่ตอบโจทย์ประชาชนจริงๆ เราไม่สามารถทำแค่ในพรรคได้
เมื่อถูกถามย้ำถึงผู้ที่จะมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของ พท. น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ก็แถวๆ นี้อาจจะมีสักคน แต่เป็นใครก็ไม่ทราบเหมือนกัน "ส่วนตัวอิ๊งค์เองพร้อมนะคะ เพราะเราลงมาจุดนี้ อยากให้พรรคแลนด์สไลด์ เพื่อนำนโยบายที่สัญญากับประชาชนไว้ทำให้เกิดขึ้นจริงให้ได้ แต่เป้าหมายของอิ๊งค์ คือ นโยบายที่จะผลักดันให้ชีวิตประชาชนดีขึ้น ถ้าพรรคมีคนที่เหมาะสมกว่าอิ๊งค์ก็พร้อมถอยเหมือนกัน ยังอยู่ในส่วนการทำนโยบาย อยู่ในส่วนการคุยกับประชาชน ผลักดันให้สิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับชีวิตของประชาชน อันนั้นคือเป้าหมายหลัก"
น.ส.แพทองธาร กล่าวถึงกระแสข่าวพรรค พท.จะจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.เป็นนายกฯ ว่า หลักการของพรรค พท. มุ่งหาเสียงให้เกิดการแลนด์สไลด์ ทำนโยบายทุกอย่างที่สัญญาให้ได้สำเร็จ ถ้าจะจับมือกับพรรคร่วมรัฐบาลจริงๆ เราจะต้องจับมือกับคนที่ไม่ขัดกับประชาธิปไตย มีความคิดเห็นเรื่องนโยบายตรงกัน เพราะเราไม่สร้างนโยบายเพื่อให้ชนะเฉยๆ เราต้องการทำให้สำเร็จ
"ถ้าคนที่จะมาจับมือไม่เห็นด้วยกับนโยบาย หรือไม่เห็นด้วยกับประชาธิปไตย อันนั้นคงไม่ใช่แนวทาง" น.ส.แพทองธาร กล่าว
สำหรับความเป็นไปได้ที่จะหารือกับ พล.อ.ประวิตร เพื่อจัดตั้งรัฐบาล นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่เคยคุยกันเลย ขอปฏิเสธ ไม่เคยคุยกันเรื่องนั้น นอกจากไม่เคยคุยกันแล้ว หลักการเป็นไปตามที่ น.ส.แพทองธารพูด เอาไว้หลังเลือกตั้ง
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เราต้องเคารพสิทธิของประชาชนก่อน อยากให้เคารพเสียงของประชาชนอย่างแท้จริงว่าประชาชนเลือกใครเป็นเสียงข้างมาก ก็ต้องได้จัดตั้งรัฐบาล
นายประเสริฐ ยังกล่าวถึงกรณีที่ ส.ว.เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยกเลิกวาระนายกฯ 8 ปี ว่า พรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว เพราะเป็นการแก้เพื่อการสืบทอดอำนาจ ขัดหลักการประชาธิปไตย เข้าใจว่ามีความพยายามอยู่ เราเฝ้ามองอยู่
ขณะที่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ควรเป็นประชาธิปไตยให้ได้มากที่สุด เราปกครองประชาธิปไตย ควรเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง แล้วมองตรงนั้นมากกว่า