นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวยืนยันว่า ทางพรรคมีความพร้อมในเรื่องผู้สมัคร 100% แล้ว ซึ่งในวันนี้เป็นการประชุมว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม. ของพรรค แต่ที่ยังไม่เปิดตัวเนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนเรื่องเขตเลือกตั้ง อย่างไรก็ดี ผู้สมัครได้เริ่มลงพื้นที่เพื่อแนะนำตัวแล้ว
ทั้งนี้ ผู้สมัครทั้ง 33 เขต เป็นทั้งผู้สมัครจากส.ส. ปัจจุบัน คนรุ่นกลาง และกลุ่มผู้สมัครคนรุ่นใหม่ที่ทำงานในพื้นที่ และมีการดึงคนรุ่นใหม่ที่มีประสบการณ์ด้านอื่น ทั้งด้านนักวิชาการ สตาร์ทอัพ และมีพี่เลี้ยงจากทีมผู้บริหารของพรรค
"วันนี้เป็นการประชุมซักซ้อมแผนงาน จากนี้ไปพยายามเปิดกว้างให้ทุกคนมีส่วนร่วม รวมทั้งแนวทางการสื่อสาร ให้ทีมงานเกาะติดในพื้นที่สะท้อนปัญหาในพื้นที่ และมีส่วนร่วมการออกแบบนโยบายให้ตรงใจคนกทม." นายเอกนัฐ กล่าว
ทั้งนี้ ในสนามเลือกตั้งกทม. ยังคงมั่นใจในกระแสของพล.อ.ประยุทธ์ และเชื่อว่า คนกทม. ยังเลือกส.ส. ของพรรค เพื่อให้ส.ส. ของพรรค ไปเลือกผู้นำประเทศ ซึ่งในสภาวะของประเทศขณะนี้ คนที่เหมาะสมที่สุด คือ พล.อ.ประยุทธ์
โดยแนวทางของพรรค ยึดมั่นในสถาบันหลักของชาติ เน้นเรื่องการขับเคลื่อนเขตเศรษฐกิจสร้างสรรค์ การสร้างมูลค่า การพัฒนาทักษะใหม่ๆ การใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม และต่อยอดสวัสดิการพื้นฐาน ที่เป็นผลงานของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นแนวทางขับเคลื่อนด้วยกัน และในไม่ช้าจะมีการประกาศนโยบายให้ทราบต่อไป
นายเอกนัฏ กล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีกำหนดการเดินสายพบปะประชาชนในต่างจังหวัด โดยที่แรกจะเดินทางไปยังจ.ชุมพร ในวันที่ 28 ม.ค. นี้ พร้อมทั้งจะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครบางพื้นที่ รวมถึงการเปิดนโยบายไปพร้อมๆ กัน
ส่วนกรณีที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย และนายวีระ สมความคิด สมาชิกพรรคเสรีรวมไทย ยื่นหนังสือให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบกรณีการจัดประชุมใหญ่ของพรรครวมไทยสร้างชาติว่ามีการกระทำผิดกฏหมายเลือกตั้ง นายเอกนัฐ ชี้แจงว่า กิจกรรมที่จัดวันที่ 9 ม.ค. ได้มีการนัดหมายล่วงหน้า และมีการแจ้งสำนักงานกกต. ให้ทราบ เป็นไปตามกฏหมายทุกขั้นตอน
"ทุกอย่างดำเนินการตามขั้นตอนตามกฏหมาย พรรคให้ความร่วมมือกับกกต. ในการสอบแน่นอน กิจกรรมพรรคเปิดสู่สาธารณะ เราไม่ได้ห้าม ตรงไปตรงมา" นายเอกนัฐ กล่าว
ส่วนประเด็นที่อ้างว่า ในวันเปิดตัวพล.อ.ประยุทธ์ เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ที่ผ่านมา มีการขนคนข้ามจังหวัดมาฟังปราศรัยนั้น นายเอกนัฐ ยืนยันว่า ทุกคนที่มา มาด้วยความตั้งใจที่จะต้อนรับพล.อ.ประยุทธ์ ทางพรรคไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเกณฑ์คนมา ส่วนเรื่องเสื้อและหมวกที่เป็นประเด็น ทางพรรคได้ปิดป้ายเป็นสติกเกอร์ และถือเป็นทรัพย์สินของพรรคใช้ในห้องประชุมเท่านั้น ไม่ได้มีการแจกแต่อย่างใด
สำหรับประเด็นการนำศิลปินมาขึ้นเวทีปราศรัย เพื่อช่วยในการหาเสียงนั้น นายเอกนัฐ กล่าวว่า เพลงทุกเพลงที่ขับร้อง ไม่ได้นำร้องเพื่อการตลาด แต่แต่งมาเพื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ และคนขับร้องเป็นสมาชิก
"การร้องทั้งสองท่านไม่ได้เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง โดยเฉพาะสมชัยเป็นอดีตกกต. ต้องแสดงเจตนาให้ชัด ร้องในฐานะอดีตกกต. หรือเป็นสมาชิกพรรคที่เป็นคู่แข่งกับพรรครวมไทยสร้างชาติ" นายเอกนัฐ กล่าว
ในส่วนของนโยบายเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นายเอกนัฐ ย้ำว่า เป็นนโยบายที่เกิดขึ้นในสมัยพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งพรรคตั้งใจต่อยอดโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ดูแลเพิ่มสิทธิ สร้างสังคมเท่าเทียม มีการปูพื้นสวัสดิการที่เป็นธรรม ไม่จำกัดอาชีพ ซึ่งที่ผ่านมาในต่างจังหวัดได้ยินประชาชนเรียกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐว่า "บัตรลุงตู่" ด้วยซ้ำ