นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการลงพื้นที่ย่านห้วยขวางวานนี้ (22 ม.ค.) ซึ่งเป็นการลงพื้นที่กรุงเทพฯ ครั้งแรกของพรรคภูมิใจไทย ว่า จากการลงพื้นที่และปราศรัยนโยบายของพรรคภูมิใจไทย ก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากประชาชน ซึ่งหลังจากนี้พรรคจะทยอยลงพื้นที่ในกรุงเทพฯ มากขึ้น เนื่องจากตั้งใจจะส่งผู้สมัครในเขตกรุงเทพฯ ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ส่วนความคาดหวังเขตใดเป็นพิเศษหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า คาดหวังทุกเขต แต่ต้องขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งเรื่องนโยบายพรรค และการทำงานของผู้สมัครในพื้นที่ แต่ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด และมั่นใจว่าสามารถปักธงในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้อย่างแน่นอน เพราะ กทม.เป็นเมืองที่สำคัญ
"กรุงเทพมหานคร เป็นเขตบริหารพิเศษ หากมีผู้แทนของเราเอง จะทำให้สามารถแก้ไขปัญหาหลายๆ อย่างได้ ในรูปแบบการร่วมมือการทำงานให้มากที่สุด เพื่อเสริมการทำงานของผู้ว่าฯ กทม." หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าว
สำหรับนโยบายที่จะใช้เป็นจุดขายในเขตกรุงเทพฯ นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า จะใช้ผลงานในช่วงที่เป็นรัฐบาล 4 ปีที่ผ่านมา พร้อมยืนยัน พรรคภูมิใจไทยไม่มีความขัดแย้งกับใคร และไม่ชอบเรื่องความขัดแย้ง จะเห็นได้ว่าแนวทางการหาเสียงของพรรค จะไม่ได้โจมตีหรือด้อยค่านโยบายของพรรคใด
ส่วนการนำเสนอนโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้า จะสามารถซื้อใจคนกรุงเทพฯ ได้หรือไม่นั้น นายอนุทิน แสดงความมั่นใจ เพราะตลอด 4 ปีที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทยกำกับดูแลกระทรวงคมนาคม การที่พูดว่าค่าโดยสารจะไม่เกิน 40 บาทนั้น ได้มีการศึกษามาแล้วว่าคุ้มค่ากับการลงทุน และเกิดประโยชน์ต่อประชาชน ไม่ใช่พูดให้ประชาชนรู้สึกดีแล้วเลือกพรรคเรา ซึ่งคนที่บริหารบ้านเมืองมา 4 ปีแล้ว จะทำอะไรชุ่ย ๆไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงความพร้อมของพรรคภูมิใจไทย หากนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภา โดยนายอนุทิน ยืนยันว่าพร้อม เพราะหากนายกฯ ไม่ประกาศยุบสภาฯ ก็จะเหลือเวลาเต็มที่อีก 2 เดือน ซึ่งการที่นายกฯ เข้าเป็นสมาชิกของพรรครวมไทยสร้างชาติแล้ว ก็สามารถคาดเดาได้ว่าการยุบสภาฯ จะเกิดขึ้น จะทำให้ระยะเวลาเหลือไม่ถึง 2 เดือน และย้ำว่าพรรคภูมิใจไทยพร้อมตั้งแต่ปีที่แล้วแล้ว ตอนนี้หากจะยุบสภาฯเมื่อไร ก็ต้องพร้อม
ส่วนกระแสการลงพื้นที่เยาวราชของ พล.อ.ประยุทธ์ ในนามสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ น่ากังวลหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องให้กำลังใจ และพรรคภูมิใจไทย ก็ให้กำลังใจทุกพรรค โดยในช่วงเทศกาลตรุษจีน ได้ส่งข้อความ "ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้" ให้กับหัวหน้าทุกพรรค เพื่อให้กำลังใจกัน เพราะเชื่อว่าทุกคนต่างมีความปรารถนาที่จะรับใช้ประชาชน ซึ่งต้องให้กำลังใจกัน ส่วนคนตัดสินใจสุดท้ายคือประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่าในภาพรวมแล้ว พรรคภูมิใจไทย กังวลกับกระแสตอบรับพล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวตอบว่า กระแส "ลุงหนู" ก็มี ไปลงพื้นที่ไหนก็ได้รับการตอบรับดีจากประชาชน หลายคนมาให้กำลังใจ ซึ่งในฐานะในฐานะหัวหน้าพรรค และความเป็นนักการเมืองเราถือว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีค่า และการเข้ามาตัดสินใจทำการเมืองในพื้นที่กรุงเทพฯ เนื่องจากเราเห็นว่าประชาชนก็เริ่มรู้จักพรรคภูมิใจไทยมากขึ้น
"จะประสบความสำเร็จแค่ไหน ก็อยู่ที่ชาวกรุงเทพฯ ได้ส.ส.ก็ทำงาน แต่ถ้าไม่ได้ส.ส.ก็ต้องทำงานอยู่ดี หากได้ ส.ส.กทม. ก็ถือว่าเป็นการเสริมความแข็งแกร่ง แต่โดยพื้นฐานก็แข็งแกร่งอยู่แล้วในจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ" นายอนุทินระบุ
ส่วนหลังการเลือกตั้งจะสามารถจับมือกับพรรคอื่นได้หรือไม่แม้ว่าขณะนี้จะยังแข่งกันอยู่ นายอนุทิน ย้ำว่า ทุกอย่างอยู่ที่ผลของการเลือกตั้ง พรรคภูมิใจไทยก็ชัดเจนอยู่แล้ว และขอว่าควรเลิกพูดได้แล้วว่าใครอยู่พรรคนี้เป็นประชาธิปไตย ใครไม่อยู่พรรคนี้ไม่เป็นประชาธิปไตย พรรคภูมิใจไทยพรรคดูด เพราะพรรคภูมิใจไทยเองก็ถูกดูดเหมือนกัน "พรรคภูมิใจไทยก็เหมือนพรรคการเมืองอื่น ที่มีทั้งคนเข้ามา และคนออกไป หากทำได้ดี ไม่มีความขัดแย้งก็เป็นรัฐบาล หากทำได้ดี แต่เสียงไม่พอ ไม่เป็นที่ต้องการของคนอื่น ก็ไปอยู่ฝ่ายค้าน ก็มีแค่นี้" นายอนุทิน กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กระแส "ลุงตู่" กับ "ลุงหนู" ใครกระแสดีกว่ากัน นายอนุทิน หัวเราะก่อนจะตอบว่า ต้องให้ประชาชนตัดสินใจ