พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า เป้าหมายที่พรรคพลังประชารัฐให้ความสำคัญในขณะนี้ คือจะต้องนำพาประเทศฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจไปให้ได้ เพราะทั้งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลก ต่างก็เตือนว่าเศรษฐกิจโลกในปีนี้ จะยังชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อทุกประเทศ
"ผมจึงกำชับพรรคให้จัดทำนโยบายที่ยึดโยงกับประชาชน เพื่อพัฒนาประเทศจากล่างขึ้นบน ไม่ใช่จากบนลงล่าง โดยสรรหาคนเก่งที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ในด้านต่าง ๆ มาช่วยกันระดมความคิด เพื่อเสนอต่อสังคม หากสังคมตอบรับก็จะนำเข้าสู่ที่ประชุมพรรค เพื่อบรรจุเป็นนโยบาย"
สำหรับนโยบายแรกที่ประกาศไปแล้ว คือการเติมเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเป็นเดือนละ 700 บาท เพื่อเติมพลังให้ประชาชนได้ใช้ดำรงชีวิต ซึ่งนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อธิบายรายละเอียดไปแล้วอย่างชัดเจน และยังมีอีก 3 เรื่องเร่งด่วนที่ตนให้ความสำคัญก็คือ
1.สร้างโครงสร้างพื้นฐานชุมชนให้เข้มแข็ง
2.ปรับโครงสร้างพลังงานให้เป็นธรรม
3.ปฏิรูประบบสุขภาพปฐมภูมิชุมชน ซึ่งจะเป็นการ "เพิ่มพลังให้ประชาชน เพื่อสร้างพลังแก่รัฐ"
โดยหลังจากนี้ พรรคพลังประชารัฐจะเปิดเวทีเสวนาหาข้อสรุปแนวนโยบายต่าง ๆ พร้อมทั้งไลฟ์สดทางแฟนเพจ "พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ" อย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนว่า "ทุกปัญหามีทางออก ทุกประเด็นมีคำอธิบาย"
สำหรับวันนี้อยากจะบอกว่า ตนได้เรียนรู้ว่านักการเมืองไม่จำเป็นต้องพูดเก่งแต่จะต้องคิดเก่ง และที่สำคัญคือต้องหาคนเก่งมาร่วมงานด้วย เพราะคนเรานั้นไม่มีใครเก่งไปทุกเรื่อง นอกจากนั้นนักการเมืองต้องสามารถประสานกับทุกฝ่าย ประนีประนอมกับทุกพรรค เพื่อลดความขัดแย้ง โดยยึดถือผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหัวใจสำคัญจึงจะสามารถผลักดันประเทศชาติให้เดินหน้าไปได้
"ผมพิสูจน์ตัวเองมาแล้ว ทั้งในฐานะ ผบ.ทบ. และนักการเมือง โดยเฉพาะในรัฐบาลชุดนี้ ในฐานะหัวหน้าพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ได้ประคับประคองมาจนจะครบวาระ ดังเป็นที่ประจักษ์มาแล้ว" พล.อ.ประวิตร ระบุ
พล.อ.ประวิตร ยังได้แสดงความขอบคุณสื่อมวลชนและประชาชนที่ให้ความสนใจจดหมายเปิดใจเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งในวันแรกมียอดสืบค้นหาทางกูเกิลถึง 8 แสนครั้ง และเพิ่มขึ้นจนทะลุ 1.5 ล้านครั้งในวันที่สอง ถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกที่ได้รับเสียงตอบรับจากสังคม ตรงตามเจตนารมณ์ที่ต้องการจะสื่อสาร 2 ทางผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ได้เต็มที่
"ผมอาจจะเป็นมือใหม่บนโลกโซเชียลมีเดีย แต่ไม่ใช่มือใหม่ทางการเมือง ตลอด 8 ปีการเมืองมีคุณค่ามากสำหรับผม ซึ่งจะทยอยเล่าให้ฟังในโอกาสต่อไปว่าผมได้เรียนรู้อะไรบ้าง ขอได้โปรดติดตาม" พล.อ.ประวิตร ระบุ