นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ประขาธิปตย์ (ปชป.) เปิดเผยว่า วันนี้มีความพร้อมที่จะเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ในภาคอีสาน จำนวน 99 เขต จากทั้งหมด 132 เขต ไม่รวม ส.ส.บัญชีรายชื่อที่จะประกาศในโอกาสต่อไป ส่วนที่เหลือ อีก 33 เขตจะรอการแบ่งเขตให้มีความชัดเจนก่อน โดยพรรคจะส่งผู้สมัคร ส.ส.ครบทั่วประเทศทั้ง 400 เขต และบัญชีรายชื่อ 100 คน รวม 500 คน
"อีสานเชื่อมโลก" เป็นวิสัยทัศน์ที่พรรคฯ จะขับเคลื่อนภูมิภาคนี้ไปสู่ความร่ำรวยในอนาคต เพราะถึงเวลาจำเป็นที่ต้องพาภาคอีสานทั้งหมดเชื่อมโลกด้วยเส้นทางคมนาคม การท่องเที่ยว การค้า และที่สำคัญคือเชื่อมโลกด้วยซอฟต์พาวเวอร์ ศิลปวัฒนธรรม อัตลักษณ์ของความเป็นอีสานที่สามารถขายให้คนทั้งโลกได้ เพื่อสร้างเงิน สร้างอนาคตให้คนอีสานต่อไป สิ่งเหล่านี้คือวิสัยทัศน์อีสานเชื่อมโลกของพรรคฯ ที่จะทำให้คนอีสานทั้งหมด นอกจากจากนโยบายอื่นๆ อีกอย่างน้อย 8 นโยบายที่ได้ประกาศไปแล้ว
หัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวว่า ผู้สมัครของพรรคในภาคอีสานมีความพร้อมทุกจังหวัด คนอีสานเป็นคนสร้างพรรค เพราะผู้ก่อตั้งเมื่อปี 2489 เป็น ส.ส.จากภาคอีสาน 13 คน ปชป.จึงเป็นพรรคของคนอีสาน เพียงแต่บางช่วงมีผู้แทนมากบ้าง น้อยบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ประวัติศาสตร์ได้บอกกับเราว่าคนอีสานไม่เคยทิ้ง ปชป. เพราะตั้งแต่ปี 2500 ที่มีการเลือกตั้งมาแล้ว 16 ครั้ง พรรคได้ผู้แทนในภาคอีสานตลอด ไม่ว่าจะเป็นผู้แทนเขต หรือผู้แทนบัญชีรายชื่อ ซึ่งสะท้อนให้เป็นว่าคนอีสานสร้างพรรคมาแล้วก็ไม่เคยทิ้งพรรค และพรรคก็พร้อมรับใช้คนอีสานต่อไป
"พรรคประชาธิปัตย์ เราสู้กับตัวเอง สู้กับความเชื่อมั่นศรัทธาที่เรายึดมั่นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และมั่นใจว่าความเชื่อมั่น ศรัทธาที่ประชาชนคนอีสาน และคนไทยทั้งประเทศที่มีต่อประชาธิปัตย์ดีขึ้นเป็นลำดับ ตลอดระยะเวลาหลังการเลือกตั้งที่ผ่านมา ประชาธิปัตย์มีผลงานชัดเจนเป็นรูปธรรม จับต้องได้ รวมทั้งเรามีผลงานที่ทำให้กับคนอีสาน ไม่ว่าจะเป็นประกันรายได้ จ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกร ซึ่งพิสูจน์ชัดเจนว่าเราทำได้ไวทำได้จริง และยังมีนโยบายอื่นๆ ที่จะประกาศต่อไปว่าเราจะทำอะไรให้คนอีสานบ้าง" นายจุรินทร์ กล่าว
ส่วนความมั่นใจในพื้นภาคใต้ที่เป็นพื้นที่เป้าหมายของหลายพรรค ปชป.ก็ยังมีความมั่นใจ โดยจะส่งครบทั้ง 58 เขต และได้เตรียมผู้สมัครไว้ก่อนหน้านี้นานแล้ว โดยจะเปิดตัวในวันที่ 11-12 ก.พ.66 ทั้ง 58 เขตที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ส่วนวันที่ 29 ม.ค.จะเปิดตัวผู้สมัครจังหวัดภูเก็ตทั้ง 3 เขต
"ภาพรวมในภาคใต้ ผมยังมั่นใจว่าเสียงตอบรับประชาธิปัตย์ดีขึ้น วันนี้กับเมื่อวานก็มีความแตกต่างแล้ว และผลการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมา 2-3 ครั้ง ประชาธิปัตย์ก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นสงขลา ชุมพร และพื้นที่อื่นๆ เพราะฉะนั้นเรามั่นใจว่าเที่ยวหน้า ประชาธิปัตย์ในภาคใต้ดีขึ้น คราวที่แล้วเราได้แค่ 22 แต่เที่ยวนี้ไม่ 22 แล้ว อาจจะเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัวก็เป็นไปได้ จากทั้งหมด 58 เขต" นายจุรินทร์ กล่าว
หัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวว่า พรรคจะเดินหน้าตามแนวทางของตัวเองต่อไป โดยขายอุดมการณ์ ขายผลงาน และขายความตั้งใจจริงที่เรารับใช้พี่น้องคนภาคใต้มายาวนาน รวมทั้งยังมีจุดขายความเป็นสถาบันการเมืองที่ชื่อว่า "ประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ" เรามีนโยบายอะไร บอกอะไรกับประชาชน วันข้างหน้าเราต้องมาพบกับประชาชนอีก ไม่ใช่ 2-3 ปี 4 ปี ไปตามตัวไม่เจอแล้ว สำหรับประชาธิปัตย์ไม่เป็นอย่างนั้น ประชาชนฝากผีฝากไข้ในทางการเมืองไว้กับประชาธิปัตย์ได้
"ผมยังมั่นใจว่าประชาธิปัตย์ในภาคใต้หรือคนปักษ์ใต้ในการเลือกตั้งเที่ยวหน้า กับการเลือกตั้งเที่ยวที่แล้ว ผมคิดว่ามีความแตกต่างกัน เมื่อวานกับพรุ่งนี้ไม่เหมือนกันแล้ว คราวที่แล้วประชาชนอาจจะตัดสินใจการเลือกตั้งที่ภาคใต้ด้วยกรณีเฉพาะที่เกิดขึ้นในทางการเมือง แต่เที่ยวหน้าผมเชื่อว่าจะมีปัจจัยอื่นเข้ามาเพิ่มเติมมากขึ้น และมีความเปลี่ยนแปลงมากขึ้น ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ยังเป็นพรรคการเมืองที่เป็นตัวยืนอยู่สำหรับพี่น้องชาวภาคใต้ ผมยังมั่นใจอย่างนั้น และอีสานก็เหมือนกัน ผมก็มั่นใจว่าเที่ยวหน้าอีสานเราจะดีกว่าเดิม เลือกตั้งคราวที่แล้วประชาธิปัตย์ได้ผู้แทนเขตเพียง 2 คน แต่ก็มีบัญชีรายชื่ออีก 4 คน ถือว่าเรามีตัวแทนจากภาคอีสาน 6 คน ที่ทำหน้าที่ในปัจจุบัน เลือกตั้งเที่ยวหน้าก็น่าจะได้เสียงตอบรับที่ดีขึ้น เราทำการบ้านมา 3 ปีกว่าๆ อย่างไม่เคยหยุด และทำงานให้คนอีสานมาตลอด โดยเฉพาะประกันรายได้ จ่ายเงินส่วนต่าง ถือเป็นความชัดเจนที่สุด และอนาคตก็มี อีสานเชื่อมโลก ที่จะได้ขับเคลื่อนต่อไปให้กับคนอีสาน" นายจุรินทร์ กล่าว
ส่วนความพร้อมในการเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น หัวหน้าพรรคทุกคนต้องพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะตอนที่สมาชิกพรรคเลือกหัวหน้าพรรคนั้นเลือกด้วย 2 เหตุผล 1.เลือกคนที่พร้อม และมีศักยภาพที่จะมานำพรรคได้ มาเป็นหัวหน้าพรรคได้ 2.ต้องพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ถ้าเป็นแกนตั้งรัฐบาล ประชาธิปัตย์เข้าใจเรื่องนี้อยู่แล้ว คนจะมาเป็นหัวหน้าพรรคก็ต้องเข้าใจเรื่องนี้ ที่ต้องพร้อมอย่างน้อย 2 เรื่องนี้
ส่วนการตัดสินใจร่วมรัฐบาลหลังการเลือกตั้งนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่ขอพูดว่าจะเป็นอะไรในรัฐบาลหน้า แต่ขอนับหนึ่งจากประชาชนก่อน ให้ประชาชนเป็นผู้ให้คำตอบว่า เขาจะเลือกพรรคไหนมากน้อยแค่ไหนอย่างไร ขอให้ประชาชนเป็นคนแรกที่ตอบ พรรคการเมืองต้องตอบทีหลัง
"ถ้าตอบก่อน ประชาชนก็สะท้อนให้เห็นว่าวิถีทางประชาธิปไตยมันบิดเบี้ยวไปแล้ว เพราะประชาธิปไตยนั้นต้องนับหนึ่งจากประชาชนให้คำตอบก่อน ระบบนี้ก็เหมือนกันใครรวมเสียงข้างมากได้ คนนั้นก็เป็นรัฐบาล ใครเป็นเสียงข้างน้อยก็เป็นฝ่ายค้าน เพราะฉะนั้นจะทราบได้อย่างไรว่าใครรวมเสียงข้างมากได้ ก็ต้องรอผลการเลือกตั้ง ประชาธิปัตย์เคารพหลักการอันนี้ เพราะมันคือวิถีประชาธิปไตยระบบรัฐสภาที่เราเชื่อมั่นและยึดมั่นมาตลอด" นายจุรินทร์ กล่าว