นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงเป้าหมายการเมืองของพรรคในศึกการเลือกตั้งครั้งนี้ ว่า พรรคภูมิใจไทยจะทำอย่างเต็มที่แน่นอน โดยหลังเลือกตั้ง พร้อมทำงานในทุกบทบาท ขึ้นกับความไว้วางใจของประชาชน
"ถ้าประชาชนเลือกเข้ามามาก ก็พร้อมเป็นนายกฯ ซึ่งบทบาทนายกฯ คือการประสานทุกฝ่ายช่วยกันทำงาน เรื่องข้าง เรื่องสี ขอให้พอ ประเทศไทยถูกความขัดแย้งเหนี่ยวรั้งมานานเกินไปแล้ว" หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุ
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากนี้ พรรคภูมิใจไทย จะเปลี่ยนจากพรรคผู้ถูกเลือก เป็นพรรคที่เป็นผู้เลือกแล้วใช่หรือไม่นั้น นายอนุทิน ตอบว่า เอาเข้าจริง เราเป็นผู้เลือกอยู่ตลอด ครั้งที่แล้ว ถ้าไม่ได้พรรคภูมิใจไทย จะตั้งรัฐบาลกันได้หรือไม่ ย้อนกลับไปมีการเสนอสิ่งต่างๆ มาให้ตนและพรรคมากมาย ตำแหน่งสูงกว่ารัฐมนตรีก็ให้ แต่ถามว่า รับไปแล้ว บ้านเมืองไปต่อได้ไหม ถ้าไม่ได้ ถึงเป็นนายกฯ ก็ไม่มีประโยชน์
"คราวที่แล้ว เมื่อเราเลือก อำนาจ คสช.ก็หมดไปทันที แต่ถ้าไม่เลือก ตามรัฐธรรมนูญ คือ รัฐบาลรักษาการอยู่ต่อไปจนถึงการที่ ครม.ใหม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ แต่สิ่งเหล่านั้น ไม่เกิด เพราะการเลือกของภูมิใจไทย เราทำให้การเมืองเข้าสู่ระบบใหม่ และประเทศไทย ก็ยังไปข้างหน้าได้ด้วย" นายอนุทิน กล่าว
พร้อมระบุว่า ที่สำคัญการเลือกของเราก็เป็นไปตามที่ได้บอกไว้ ว่าจะไม่ให้ ส.ว.มาชี้ขาดนายกฯ เพราะจะเห็นว่านายกฯ ก็ได้มาจากเสียง ส.ส.เกินครึ่งแล้ว ครั้งนี้ก็เช่นกัน ตนยังยึดมั่นในหลักการเดิม และเชื่อว่า ส.ว.จะไม่ฝืนเสียงประชาชนตั้งนายกฯ ที่มาจาก ส.ส.เสียงข้างน้อย พรรคภูมิใจไทยไม่เอาด้วยแน่ ถ้ารวมเสียง ส.ส.ได้ 240 เสียง แล้วไปเอาเสียง ส.ว.มาเติมให้ครบ 375 เสียง สิ่งที่ต้องคิดในฐานะนักการเมือง ก็คือโจทย์ที่ว่าจะทำอย่างไรให้การเมืองเข้มแข็ง ซึ่งเรื่องนี้สำคัญมาก
"มองว่าการเมืองไทยมีวิวัฒนาการ ถ้า ส.ส.ร่วมกันได้ รวมเสียงเลือกนายกฯ ให้ได้เกินกึ่งหนึ่ง ส.ว.ก็น่าจะเทไปตามเสียงตัวแทนพี่น้องประชาชน ผมเชื่อแบบนั้น" หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุ