นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า Economist Intelligence Unit (EIU) รายงานการจัดอันดับ "ดัชนีประชาธิปไตย" (Democracy Index) ปี 2565 ระบุว่า ประเทศไทย มีคะแนนรวมเพิ่มขึ้นมากที่สุดในปี 2565 ที่ 6.67 จาก 6.04 ในปี 2021 (เพิ่มขึ้น 0.63) และขยับจากอันดับที่ 72 ในปี 2564 เป็นอันดับที่ 55 ในปี 2565 จากทั้งหมด 167 ประเทศ
การจัดอันดับจากดัชนีอันดับดังกล่าวเริ่มจัดทำขึ้นเมื่อปี 2549 โดยใช้ตัวชี้วัดทั้งสิ้น 5 มิติ ได้แก่ (1) กระบวนการเลือกตั้งและพหุนิยม (electoral process and pluralism) (2) การทำงานของรัฐบาล (the functioning of government) (3) การมีส่วนร่วมทางการเมือง (political participation) (4) วัฒนธรรมทางการเมือง (political culture) และ (5) เสรีภาพพลเมือง (civil liberties) ซึ่งประเทศไทยได้ 7.42 6.07 8.33 5.63 และ 5.88 คะแนน ตามลำดับ
เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในภูมิภาคอาเซียน ประเทศไทยอยู่ในอันดับ 4 ต่อจากประเทศมาเลเซียอันดับที่ 40 ฟิลิปปินส์อันดับที่ 52 อินโดนีเซีย อันดับที่ 54 และไทยอันดับที่ 55
ในรายงานยังระบุว่า ประเทศไทยมีคะแนนรวมเพิ่มขึ้น 0.63 ถือเป็นประเทศที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในดัชนีนี้ การพัฒนาดังกล่าวเกิดจากการเพิ่มพื้นที่ทางการเมืองสำหรับพรรคฝ่ายค้านของประเทศ การมีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น และภัยคุกคามจากความไม่สงบต่อประเทศลดลง จึงส่งผลให้ประเทศไทยเลื่อนอันดับโลกขึ้นมา 17 อันดับ มาอยู่ในอันดับที่ 55
"ตัวเลขดัชนีประชาธิปไตยนี้เป็นอีกหนึ่งรูปธรรม ที่สะท้อนความจริงใจของรัฐบาลในการพัฒนาประชาธิปไตยในประเทศ รัฐบาลเคารพทุกเสียง ยอมรับความคิดเห็น ที่เป็นไปตามกระบวนการที่ถูกต้อง สร้างสรรค์ ซึ่งเชื่อมั่นว่าทุกคนมีจิตใจที่ตั้งมั่นในการพัฒนาชาติ ทั้งนี้ นอกจากการพัฒนาประชาธิปไตยแล้ว เรายังมีปัญหาในชาติที่ยังรอการแก้ไข รัฐบาลพร้อมเดินหน้าทำงานเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เยียวยา ฟื้นฟูเศรษฐกิจไปพร้อม ๆ กัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมย้ำเสมอว่า รัฐบาลจะไม่หยุดหน้าที่เพียงการแก้ไขปัญหา แต่รัฐบาลตั้งมั่นที่จะวางรากฐานความเจริญรุ่งเรือง ความก้าวหน้า อย่างยั่งยืนไปสู่วันข้างหน้า เพื่อประชาชนในรุ่นต่อ ๆ ไป" นายอนุชา กล่าว