ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมจริยธรรมและวิชาชีพสื่อมวลชน ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ แต่ ภายหลังสมาชิกอภิปรายแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง มีการเสนอนับองค์ประชุม แต่ปรากฎว่ามีสมาชิกแสดงตนเพียง 182 คน จาก 667 คน ถือว่าไม่ครบองค์ประชุม จึงต้องสั่งปิดประชุม ถือเป็นการประชุมร่วมรัฐสภาล่มครั้งที่ 4 ในรอบปีนี้
สำหรับสาระสำคัญของร่างกฎหมายดังกล่าวกำหนดให้มีองค์กรคุ้มครองเสรีภาพของบุคคลซึ่งประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนตามที่รัฐธรรมนูญรับรอง และกำหนดให้มีการกำกับดูแลส่งเสริมจริยธรรมสื่อมวลชน โดยกำหนดให้มีองค์กรกลางเรียกว่า สภาวิชาชีพสื่อมวลชน ที่มีคณะกรรมการสภาวิชาชีพสื่อมวลชนเป็นกลไกขับเคลื่อนสภาวิชาชีพสื่อมวลชน เพื่อให้ทำหน้าที่ตามมาตรฐานแห่งวิชาชีพเป็นไปอย่างเหมาะสม เพื่อให้สื่อมวลชนมีความเป็นอิสระในการนำเสนอข่าวสารและแสดงความคิดเห็นอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นต้นทุนทางสังคมประการหนึ่งในระบอบประชาธิปไตย เมื่อสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนได้รับการคุ้มครอง สื่อมวลชนจะสามารถทำได้อย่างเต็มที่เพื่อประโยชน์สาธารณะภายใต้มาตรฐานจริยธรรมของสื่อมวลชน อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมสิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างทั่วถึงรอบด้านและความเท่าเทียมกันของประชาชน รวมถึงยังได้กำหนดให้มีมาตรฐานคุ้มครองประชาชนหรือผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนหรือองค์กรสื่อมวลชน อันมาจากการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามจริยธรรมสื่อมวลชน
ในการอภิปราย สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ต่างเห็นด้วยให้ออกกฎหมายฉบับนี้ ขณะที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน เช่น พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล รวมถึง ส.ส.พรรครัฐบาล อย่างพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ ไม่เห็นด้วย และเสนอให้ ครม.ถอนร่างกลับไปฟังความเห็นองค์กรวิชาชีพสื่อก่อน เนื่องจากสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสภาวิชาชีพสื่อมวลชน ต่างออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายฉบับนี้ เพราะเห็นว่าล้าสมัย เนื่องจากยกร่างเมื่อ 3 ปีที่แล้ว