นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก และนายสมหวัง อัสราษี อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เดินทางมายื่นใบสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยมี นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นตัวแทนต้อนรับพร้อมสวมเสื้อพรรคให้
โดยทั้ง 2 คนถือว่าเป็นบุคคลสำคัญของ นปช.ที่มีความใกล้ชิดกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตประธาน นปช. โดยเคลื่อนไหวเคียงบ่าเคียงไหล่กับนายจตุพรมาโดยตลอดถึงขั้นต้องเข้าคุกมาแล้ว สำหรับนายสมหวัง หรือเฮียหวัง ถือเป็นนายทุนคนสำคัญของคนเสื้อแดง อดีตเคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการ รมช.พาณิชย์ (นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ)
นายยศวริศ หรือ "เจ๋ง ดอกจิก" กล่าวว่า จากที่ตนติดตามพรรครวมไทยสร้างชาติมาตลอด ได้เห็นแล้วว่าน่าจะได้เป็นพรรคที่จัดตั้งรัฐบาลในครั้งหน้า โดยพิจารณาจากหลายปัจจัย ไม่เพียงแต่ดูที่ผู้นำอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เป็นแคนดิเดตนายกฯ คนเดียวเท่านั้น แต่ดูในภาพรวมอื่นๆ โดยเฉพาะพรรคนี้เป็นศูนย์รวมของนักการเมืองที่มีคุณภาพ และเป็นประชาธิปไตยเชื่อว่าจะสามารถทำประโยชน์ให้กับบ้านเมืองและประชาชนได้มากจึงได้ตัดสินใจมาสมัครร่วมงานด้วย
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า การเปิดตัวสมัครเข้าร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติของตนวันนี้อาจจะมีทัวร์ลง แต่อยากอธิบายว่าตนไม่ได้เอาอุดมการณ์มาเป็นเครื่องพันธนาการตัวเอง ต้องจงรักภักดีต่อพรรคการเมืองฝั่งเดิมอยู่ตลอดเวลาจนขยับไปไหนไม่ได้ การพูดว่าทรยศ อุดมการณ์เปลี่ยน กินกล้วย เหล่านี้ตนคิดว่าเป็นการกล่าวหากัน เพราะคนเรามีอุดมการณ์ แต่ไม่ใช่เอาอุดมการณ์มาพันธนาการตัวเองจนขยับขยายไปไหนไม่ได้ และคิดว่าทุกอย่างทำได้หมด ขยับขยายได้หมด ไปได้ทุกทิศทุกที่ที่มีประโยชน์ต่อประชาชนและต่อตัวเรา
"ผมคิดว่าสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ การที่จะต้องหาจุดยืนที่มั่นคงให้กับตัวเอง การเดินหน้าต่อสู้แบบ "สู้เพื่อเขา เราติดคุก" ที่เคยทำมาแบบเดินเข้าออกคุกหลายรอบ เป็นบทเรียนแล้วว่าไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์อะไรกับผมและครอบครัวเลย "สู้เพื่อเขา แต่เวลาอับเฉาเราไร้คนดูแล" สำหรับผมเพียงพอแล้ว เมื่อเขาเห็นค่า เขาเห็นมูลค่าผม และชวนมาร่วมงาน ผมก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง" นายยศวริศ กล่าว
นอกจากนี้ บ้านเมืองไม่ควรมีความแตกแยกอีกต่อไป ทุกคนต้องหันหน้าเข้ามาสามัคคีกัน ไม่มีแดง ไม่มีเหลือง ไม่มีนกหวีด หรือพันธมิตรฯ แต่ต้องหันหน้ามาพัฒนาประเทศด้วยกัน ไม่เช่นนั้นจะเสียเวลาทำให้บ้านเมืองพัฒนาไปไม่ได้ ที่ผ่านมาตนได้ลงพื้นที่ไปพบประชาชนอย่างต่อเนื่อง ได้เห็นว่าชาวบ้านมีความเจ็บปวด แต่ละจังหวัดมีปัญหาอยู่แล้วทั้งเรื่องที่ดินทำกิน ค่าครองชีพ สินค้าแพง ดังนั้นสิ่งที่จะแก้ปัญหาได้ก็คือ พรรคการเมืองที่อยู่ในฟากรัฐบาลที่จะต้องนำเสนอนโยบาย เพื่อนำไปแก้ปัญหาให้กับประชาชน
ขณะที่นายสมหวัง กล่าวว่า ตนตัดสินใจมายื่นใบสมัครเป็นสมาชิกหลังคิดมานาน ได้เห็นการทำงานและติดตามข่าวของพรรคมาตลอดว่าพรรคนี้ทำเพื่อประเทศชาติ ตรงกับอุดมการณ์ของตน ทำให้คิดว่าพรรคนี้แตกต่างกับที่เคยอยู่มาในอดีต ซึ่งถือว่าเป็นความภูมิใจและยินดีที่เข้ามาเป็นสมาชิก
"วันนี้ที่ได้มาอยู่ตรงนี้ถือเป็นความภาคภูมิใจ วันนี้พร้อมทุกเวลาที่จะลงสมัครในนามพรรคที่ชอบ ผมเห็นการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่เสียสละแม้ว่าจะเกษียณอายุแล้วแต่ยังอุทิศตัวมาทำงาน ผมก็อยากจะเดินตามรอยแบบเดียวกับท่านนายกรัฐมนตรีเช่นกัน" นายสมหวัง กล่าว